60 พรรษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ กับพระอัจฉริยภาพที่คนไทยไม่เคยรู้
60 พรรษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
กับพระอัจฉริยภาพที่คนไทยไม่เคยรู้
ในปีพุทธศักราช 2555 เป็นปีมหามงคลสมัยที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระชนมายุครบ 5 รอบ หรือ 60 พรรษา พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสที่เปี่ยมด้วยพระอัจฉริยภาพในหลาย ๆ ด้าน และทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อทรงแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในด้านต่าง ๆ ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษ ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระอัจฉริยภาพในหลาย ๆ ด้านที่ไม่ได้เป็นที่ประจักษ์แก่มหาชนเท่าใดนัก
ตาม ที่ "นายแพทย์ธำรงรัตน์ แก้วกาญจน์" ผู้ถวายงานใกล้ชิดและเป็นที่ปรึกษามูลนิธิมหาวชิราลงกรณ เล่าให้ทีมข่าวดีไลฟ์ หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจฟังถึงพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรี และความประทับใจที่มีต่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
นอกจากทรงโปรดปราน การเป่าแซกโซโฟนแล้ว พระองค์ยังทรงโปรดขับร้องเพลงด้วย ทรงมีพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีส่วนพระองค์อยู่มาก เพียงไม่ได้แสดงออกต่อหน้าสาธารณะ ทรงนิยมแสดงเพียงในงานส่วนพระองค์ในวังบ่อย ๆ แต่เดี๋ยวนี้ทรงโปรดการขับร้องในยามที่ทรงว่างมากกว่า
พระองค์ทรง ขับร้องเพลงได้ดีมาก เพราะผมเคยได้ยินด้วยตัวเอง ตอนสมัยจัดงานส่วนพระองค์ภายในวังเมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อน ทรงโปรดเพลงคำหอมของวงสุนทราภรณ์มากเป็นพิเศษ เคยทรงร้องเพลงนี้ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ เป็นเพลงคำหอมใหม่ ส่วนคำหอมแบบโบราณ (ลาวคำหอม) ทรงโปรดอยู่มากเหมือนกัน
ทั้งยังทรง โปรดเพลงไทยและพ็อปเป็นพิเศษ ถ้าเป็นเพลงสากลทรงโปรดในสไตล์พ็อปเบา ๆ ผสมคลาสสิกนิดหน่อย เช่น เพลงฝรั่ง อย่าง Spanish eyes, เพลงหวานอมตะ อย่างเพลง La vie en rose หรือเพลง Moulin rouge รวมไปถึงเพลงโรแมนติกคลาสสิกอื่น ๆ แต่เพลงลูกทุ่งผมยังไม่เคยได้ยินทรงสดับ"
ด้วยความสนพระทัยด้านการ ดนตรี พระองค์ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับมูลนิธิวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพฯ ไว้ในพระราชูปถัมภ์ เมื่อปี 2525
นอก จากพระปรีชาสามารถทางดนตรีที่คนทั่วไปยังไม่ค่อยทราบแล้ว นายแพทย์ธำรงรัตน์ยังเล่าให้ฟังต่ออีกว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ยังสนพระทัยด้านการศาสนาและทรงเลื่อมใสในพระบวรพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ทรงมีพระราชศรัทธาเสด็จออกผนวชในพระพุทธศาสนาในปี พ.ศ. 2521 ทรงได้รับถวายพระสมณนามว่า "วชิราลงฺกรโณ"
"ระหว่างที่ทรงผนวช ก่อนพิธีอุปสมบทจะต้องมีพิธีขานนาค พระองค์ทรงตรัสว่า คำกล่าวขานนาคเป็นเรื่องยาก ถ้านาคอื่น ๆ ที่ยังไม่รู้ความหมายอาจจะจดจำยาก ทรงรับสั่งให้แปลจากภาษาบาลีเป็นภาษาไทยให้ ทรงตั้งพระทัยเป็นอย่างมาก พร้อมจดบันทึกทุกขั้นตอนของการอุปสมบท รวมถึงการปฏิบัติตนในฐานะเป็นภิกษุใหม่อย่างละเอียด ทรงเคร่งครัดในการปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนา"
ในด้านทางการทหาร อย่างที่ทราบว่าพระองค์ทรงเป็น "เจ้าฟ้านักบิน" พระองค์แรกในราชวงศ์จักรีที่ทรงทำการบินเครื่องบินของกองทัพอากาศได้เกือบ ทุกรูปแบบ
"หลายคนอาจนึกว่าพระองค์เป็นทหารเพื่อความโก้ แต่ความจริงไม่ใช่เลย พระองค์ก็ทรงเป็นทหารโดยแท้ อาจไม่ค่อยมีใครทราบว่า ระหว่างที่เหตุการณ์บ้านเมืองไม่สงบ ประมาณช่วงหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 พระองค์เสด็จฯ ไปทรงช่วยดูแลทหารถึงยุทธภูมิที่แสนทุรกันดาร ออกหน่วยเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่กองตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)
ในการ เสด็จฯ แต่ละครั้งไม่ได้สะดวกสบาย เวลาเสด็จขึ้นเฮลิคอปเตอร์แล้วต้องทรงกระโดดลงมา ในบางครั้งระหว่างที่ทรงเยี่ยมหน่วยทหารต่าง ๆ เกิดเหตุปะทะกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ยังเสด็จฯ โดยเร่งด่วนไปยังสถานที่เกิดเหตุปะทะ และทรงนำทหารบาดเจ็บกลับมายังฐานทัพด้วยพระองค์เอง แม้กำลังเกิดการยิงปะทะกันอยู่ก็ตาม ถือว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก"
"ผมคิดว่าพระองค์มีเสน่ห์ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ที่มาเข้าเฝ้าฯ หากใครยังไม่เคยพบอาจจะเกรงว่าพระองค์จะดุไหม จริง ๆ แล้วพระองค์ทรงเป็นสุภาพบุรุษที่รับสั่งดี เป็นเสน่ห์ของพระองค์ ผู้ถวายงานเองก็อดไม่ได้ที่จะชอบ อีกทั้งทรงมีระเบียบวินัยมาก ตั้งแต่เรื่องเครื่องแต่งกาย การปฏิบัติตัว แม้แต่เรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหาร รวมถึงการจัดโต๊ะอาหาร เรื่องนี้พระองค์ทรงเนี้ยบมาก ในฐานะที่ผมเป็นผู้ถวายงาน แม้จะทรงระเบียบวินัยมาก แต่ก็เพราะต้องการให้พวกเราเป็นคนดีและทำให้ถูกต้อง" ผู้ถวายงานอย่างใกล้ชิดผู้นี้กล่าว
ทั้งหมดนี้เป็นพระอัจฉริยภาพ เพียงเสี้ยวหนึ่งที่บอกเล่าจากสายตาผู้ใกล้ชิดมาบอกเล่าสู่กันฟัง เนื่องจากพระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงบำเพ็ญเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่พสกนิกรชาวไทยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายัง มีอีกมากนัก
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ ออนไลน์
ขอทรงจงพระเจริญ
60 พรรษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ กับพระอัจฉริยภาพที่คนไทยไม่เคยรู้
Reviewed by bombom55
on
21:41
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: