มโน เลาหวณิช สองคำนี้ ดร.นพ. ใครเป็นผู้ให้โอกาสคุณได้ไปเอา 2 คำนี้มา

มโน เลาหวณิช สองคำนี้ ดร.นพ.  ใครเป็นผู้ให้โอกาสคุณได้ไปเอา 2 คำนี้มา

พระพุทธเจ้าท่านทรงตรัสไว้อย่างชัดเจนว่า คนดี นั้นจะต้องมีคุณธรรม 2 ประการนี้ คือ กตัญญู แปลว่า รู้คุณ และกตเวที แปลว่า ตอบแทนคุณ

เมื่อกล่าวถึงความกตัญญู-กตเวที ผู้เขียนขอยกตัวอย่างให้ท่านผู้อ่านได้ตระหนักถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันนี้เพราะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ได้มีข่าวออกมาเกี่ยวกับ ศิษย์เก่าวัดพระธรรมกายออกมาแฉ 

ซึ่งหนึ่งในนั้นคือดร.นพ.มโน เลาหวณิช หรืออดีตลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ดังที่ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ คม ชัด ลึก ตีพิมพ์ไว้ว่า “ดร.นพ.มโน เลาหวณิช จากวิทยาลัยนานาชาติ ปรีดีพนมยงค์ ม.ธรรมศาสตร์ หรืออดีตพระ ดร.มโน เมตตานันโท อดีตพระลูกวัดพระธรรมกาย 

ซึ่งได้รับทุนการศึกษาจากพระธัมมชโย และได้รับการส่งเสริมให้ไป ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด สหรัฐอเมริกา ในช่วง พ.ศ.๒๕๓๕-๒๕๓๗ จนกลับมาสู่ประเทศไทย” ข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.komchadluek.net ศาสนา-พระเครื่อง : ข่าวทั่วไป : 'สตีฟ จ็อบส์' ธรรมกายมาร์เก็ตติ้งมุมมองดร.นพ.มโน (วันอังคารที่ 4 กันยายน 2555)

หากเพียงได้อ่านเนื้อความทั้งหมดทั้งในปัจจุบันรวมถึงอดีต ที่ดร.นพ.มโน เลาหวณิช ได้กล่าวหาผู้ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเรียกว่าพระอาจารย์ บวกกับยังมีเมตตาส่งไปร่ำเรียนจนจบมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เพื่อที่หวังเพียงว่าจะได้มาช่วยกันสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา และนี้คือสิ่งที่ท่านเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายได้รับจากการตอบแทนบุญคุณ ของบุคคลที่แม้ยังกล้าใช้คำนำหน้าชื่อว่าเป็นดอกเตอร์

ในปีช่วงปี พ.ศ.๒๕๓๕-๒๕๓๗ นั้นทางวัดพระธรรมกายมีความลำบากอยู่พอสมควรเพราะยังต้องสร้างวัด ขยายพื้นที่เพื่อรองรับสาธุชนที่สนใจมาร่วมกิจกรรมทำบุญ และใช้เป็นสถานที่ฝึกพระ ให้เป็นพระแท้ ฝึกคนให้เป็นคนดีต่อสังคม หากไม่มีสถานที่ ที่ใหญ่พอจะรองรับการฝึกฝนคนผ่านกิจวัตร กิจกรรมนั้น จะสามารถฝึกคนได้อย่างไร

ถึงแม้จะยากลำบากขนาดไหนทั้งการมาวัด หรือการมาอยู่วัดเพื่อช่วยงานกิจกรรมต่างๆ เช่นมาเป็นอาสาสมัครเก็บทำความสะอาดภายในวัด แต่ทุกคนมากันด้วยใจ ไม่มีปัจจัยก็ใช้แรงในการช่วยกัน หากเป็นลูกศิษย์วัดจริง จะต้องได้ยินคำนี้จนคุ้นหูว่า “ต้องช่วยกันเก็บรักษาสมบัติพระพุทธศาสนา” ซึ่งเป็นคำที่ครูอาจารย์วัดพระธรรมกาย คอยบอกสอนลูกศิษย์เสมอมา ถึงกระนั้นอดีตพระเมตตานันโทก็ยังได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเป็นตัวแทนวัดไปร่ำเรียนหนังสือ

ผู้เขียนจึงอยากให้ผู้อ่านทุกท่านใช้วิจารณญาณ ในการอ่าน หรือฟังที่ดร.นพ.มโน เลาหวณิช วิพากษ์วิจารณ์ ใช้เหตุผลต่างๆ นานา มาพาดพิงถึงทั้งทางวัดพระธรรมกายก็ดี ถึงเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายก็ดี หรือทางลูกศิษย์วัดพระธรรมกายก็ดี 

แม้ถึงกระนั้นทางวัดพระธรรมกายเองก็มิได้ออกมาฟ้องร้อง ดร.นพ.มโน เลาหวณิช แต่อย่างใด เพราะทางวัดใช้หลักการที่ว่า อนูปวาโท คือ การไม่เข้าไปว่าร้ายกัน และที่สำคัญคือ ครูอาจารย์ท่านจะสอนเสมอว่าหากมีใครมาว่าร้ายเราและเราไปว่าร้าย หรือโกรธตอบแสดงว่าเรา ร้ายมากกว่าคนที่มาว่าเราอีก เพราะเราไม่รู้จักข่มความโกรธ

ผู้เขียนอยากเพียงขอให้ผู้อ่านทุกท่านสวมหัวใจความเป็นครูที่มีความรักและปรารถนาต่อลูกศิษย์ยอมที่จะลำบากโดยไม่บ่นแม้ซักคำ และไม่หนีไปไหนคอยให้กำลังใจลูกศิษย์ในการทำความดี พร้อมหาปัจจัยส่งลูกศิษย์ไปเรียนเพื่อหวังเพียงว่าสักวันหนึ่งจะกลับมาช่วยกันสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาเพื่อจรรโลงจิตใจของชาวพุทธให้เป็นคนดีทั้ง คิดดี พูดดี และทำดี ไม่ให้หลงไปทำบาปจนต้องติดตัวไปนานแสนนานและต้องมารับใช้ผลแห่งกรรมอีก  

แต่สิ่งที่ถูกตอบแทนกลับมาจากลูกศิษย์คือสิ่งที่ทุกท่านได้เห็นกันตามหน้าหนังสือพิมพ์ หรือการจัดเสวนาต่างๆ ของผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย และเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันกับหมู่คณะลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ท่านจะรู้สึกเช่นไร ต่อบุคคล คนนี้ ดร.นพ.มโน เลาหวณิช

Cr.  ลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย