อิทธิพลของโซเชียล
อิทธิพลของโซเชียล
เรื่องราวใด ๆ ก็ตามเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ไม่เป็นที่สนใจของผู้คน ไม่นานเรื่องราวนั้นก็จะหายไปแทบจะไม่อยู่ในความทรงจำของใคร ตรงกันข้ามหากเรื่องนั้น ๆ เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของผู้คน เรื่องราวนั้นก็จะถูกบันทึกไว้เป็นเหตุการณ์สำคัญ แม้เวลาผ่านไปนานแสนนาน เรื่องนั้นก็จะยังอยู่ในความทรงจำเสมอ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับวัดพระธรรมกายในวันนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่ อยู่ในความสนใจของผู้คนในวงกว้าง เนื่องจากนอกจากจะเป็นวัดที่มี สาธุชนมาปฏิบัติธรรมมาก มีวิธีการจัดการสมัยใหม่ เรื่องราวยังเกิดขึ้น ในยุคแห่งการสื่อสารอีกด้วย จึงเป็นปัจจัยให้ข้อมูลต่างๆถูกกระจาย
ออกไปอย่างรวดเร็ว
หากจะถามว่าในสมัยพุทธกาลเคยมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับโซเชี่ยลบ้างไหม ก็คงจะบอกได้ว่ามี แต่เกิดขึ้นในวงแคบ และสามารถจัดการ ให้จบได้ภายใน เวลาอันสั้น ขอยกตัวอย่างบุคคลผู้หนึ่ง ที่หาก เอ่ยนามบุคคลนี้ขึ้นมา ก็คงพอจะนึกเรื่องราวออก
ใช่ครับ ผมกำลังจะพูดถึงเรื่องของนางจิญจมาณวิกา ว่าไปแล้วนางคงจะสวยไม่เบาทีเดียวจึงสามารถมาเป็นตัวเอกในประวัติศาสตร์เรื่องนี้ได้
กล่าวคือ ในสมัยนั้น พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมาก ประดุจแสงแห่ง พระอาทิตย์ที่สาดส่อง เลยทำให้เหล่าเดียรถีย์เกิดความร้อนรุ่ม เพราะตัวเอง ขาดลาภสักการะหรือบวกความอิจฉาตาร้อนว่างั้นเหอะ เลยกลายเป็นแสงหิ่งห้อย เมื่อความอิจฉามากเข้า ก็เลยคิดหาทางเตะตัดขาตามวิสัยคนพาล
ซึ่งเหมือนกัน ทุกยุคทุกสมัย คือ พอตัวเองทำดีเหมือนเขาไม่ได้ ก็ต้องป้ายสีให้ร้ายเขา อย่ากระนั้นเลยว่าแล้วก็สอดส่ายสายตามองหาตัวช่วย แล้วก็มาสะดุด ที่นางจิญจมาณวิกานี่แหละ
อย่างที่กล่าวไว้เบื้องต้นว่า นางคงสวยน่าชม เอ้า มาดูคุณสมบัตินางสักนิด ว่ากันว่า ในกรุงสาวัตถีนี่ หากเอ่ยถึงนางคนนี้ นึกภาพกันออกเลยหล่ะว่า เป็นปริพาชิกาที่มีรูปโฉม ราวกับนางอัปสร รัศมีหรือออร่า นี่เปล่งออกมาจากสรีระของนางเลยว่างั้นเหอะ
ด้วยคุณสมบัติปานฉะนี้ นางจึงถูกเดียรถีย์เรียกไปร่วมวางแผน เพื่อทำลายพระพุทธองค์ พอวางแผนกันเสร็จสรรพ ไม่รู้ว่าแถวไหนหล่ะ คงมีเสียงหัวเราะคิกคัก ๆ ตามประสาพวกคิดเรื่องดี ๆ ไม่ค่อยเป็น จากนั้นนางก็เปลี่ยนเครื่องนุ่งห่มจากปริพาชิกา มาเป็นห่มผ้าสีสวย ประพรมของหอม ถือพวงมาลัยไปวัด ทำทีเหมือนกับจะไปฟังธรรม พอใครถาม ก็บอก จ้างก็ไม่บอก
เท่านั้นยังไม่พอ นางยังลงทุนไปอยู่ใกล้วัด ก็คงเหมือนยุคนี้ ที่ลงทุนจ้างไส้ศึกเข้ามาอยู่ในวัดนั่นหล่ะ พออยู่ใกล้วัดแล้วทำไง เวลาเช้าก็ ทำเป็นเดินออกมาจากวัดแต่เช้า พอใครถามไปไหนมา ก็บอก จ้างก็ไม่บอก
ดึก ๆ ดื่น ๆ ก็มีคนเห็นในวัด ถามว่ามาทำอะไร ก็บอกว่าจ้างก็ไม่บอก เวลาผ่านไป เดือนสองเดือน คนก็เห็นแบบนี้ ถามก็ตอบแบบนี้ พอนานเข้า เห็นว่าได้การหล่ะ พอมีคนถามก็เลยเข้าทาง แหม ถามมากอยากรู้บอกให้ก็ได้ ก็อยู่กุฏิพระพุทธเจ้าแหละ น้าน เอากะหล่อนสิ
ตอนนี้คนก็เริ่มสงสัยแล้ว เอ จริงไม่จริงเนี่ย เริ่มปากต่อปากเล้ว อย่าลืมว่าสมัยนั้นยังไม่มีไลน์ ยังไม่มีทวิตเตอร์ ไม่มีเฟสบุค เรื่องก็เลยอยู่แค่รอบ ๆ วัด พอผ่านไปสามสี่เดือน นางก็เริ่มแผนขั้นต่อมา คือ เอาผ้ามาผูกที่ท้อง ทำเหมือนมีท้อง
ตอนนี้ก็เริ่มมีการให้พวกคนของตนไปกระจายข่าวบ้างแล้วว่า นางท้องกับพระพุทธองค์ ข่าวก็เริ่มกระจายไปอีก ตอนนี้คนบางส่วนก็ชักจะเชื่อ บางพวกก็ไม่มาวัดแล้ว พอครบเก้าเดือน ลงทุนหนักเลย มีการทุบมือเท้าให้บวมเหมือนคนท้อง พอได้ที่
มาเลยคราวนี้ มายืนต่อหน้าพระพุทธเจ้าในขณะที่พระองค์กำลังแสดงธรรม ว่าไงหล่ะ แหม ๆ พระองค์เสียงไพเราะเพราะพริ้งซะจริงนะ แต่ไม่สนใจมาดูแลลูกในท้องเลยนะ เอาหล่ะสิ คนในศาลาชักใจคอไม่ดีแล้ว เพราะได้ยินได้ฟังมานานพอควร
พระพุทธองค์ทรงนิ่ง แล้วตรัสสั้น ๆ “สิ่งที่เธอพูดมา มีเธอกับเราตถาคตที่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง” เอาหล่ะสิ พอเจอแบบนี้เข้า เลยทำดิ้นไม่พอใจ ในตำราก็บอกพระอินทร์ให้เทพบุตรแปลงเป็นหนูมากัดผ้าขาด ทำให้คนเห็นทั้งศาลาว่า ท้องไม่จริงนี่นา ว่าแล้ว เลยโดนญาติโยมขับไล่ คงโดนไปหลายตุ๊บ วิ่งหนีมานอกวัด จนโดนธรณีสูบนั่นแหละ ใครอยากรู้รายละเอียดก็ไปศึกษาเรื่องนี้ได้ว่า โทษของการจ้วงจาบ ใส่ร้ายผู้มีศีลเป็นอย่างไร
พอมาถึงตรงนี้คงพอนึกภาพกันออกนะว่า โซเชียลสำคัญอย่างไร มีผลอย่างไร เพราะสังคมสมัยก่อนเรื่องกระจายมีแค่วงจำกัด ดังนั้นข่าวสารต่างๆจึงอยู่ในวงแคบ ดังนั้นเรื่องก็ไม่ลุกลามไปไกลมาก ไม่ออกสู่วงกว้าง ง่ายต่อการจัดการ แต่ ณ วันนี้เรื่องจริงไม่จริงไม่รู้ แต่กระจายไปกันทั่วโลกภายในไม่กี่นาที
และก็แปลกที่คนก็พร้อมจะเชื่อ บางคนก็บอก หากไม่มีมูลหรือไม่จริง เขาคงไม่กล้าพูด พอได้ยินครั้งแรกก็จะเริ่มสงสัย ได้ยินบ่อยเข้าบ่อยเข้า ก็ชักเอ น่าจะจริง พอได้ยินทุกวัน ๆ ใช่ ใช่ จริงแน่ๆ
ดังนั้นเมื่อเราได้ยินได้ฟังอะไรมา ก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสิน เชื่อหรือไม่เชื่อ ให้หาข้อมูลให้ชัดเจนก่อนให้รอบด้าน ไม่อย่างนั้นจะตกเป็นเครื่องมือของคนพาลได้
สำหรับผมเอง ก็เอาใจช่วยชาววัดพระธรรมกาย และนับถือน้ำใจที่เขายึดแนวของพระบรมศาสดาคือ ไม่สู้ ไม่หนี แต่ทำความดีเรื่อยไป
แต่อดที่จะสงสารเหล่าเดียรถีย์ไม่ได้ว่า วันๆจะนอนหลับกันบ้างไหมหนอแม้จะอยู่บ้านสวยๆงามๆ ใจจะมีสุขบ้างไหมหนอ ใจจะเย็นชุ่มฉ่ำกันบ้างไหมหนอ เพราะวัน ๆ คิดแต่เรื่องร้าย ๆ ที่จะทำลายผู้อื่น น่าสงสารนะครับ ว่าไหม
ปรัศนี
อิทธิพลของโซเชียล
Reviewed by bombom55
on
00:39
Rating:
คนขาดความรู้สังคมอ่อนแอ วัดพระธรรมกายสร้างพระให้เป็นพระเป็นครูสอนศีลธรรมให้ความรู้ความจริงของชีวิตแก่ชาวโลก ขออนุโมทนาครับ
ตอบลบสาธุครับ
ลบสาธ สาธุ อนุโมทามิ
ตอบลบคาดว่าถ้าไม่จบดิน นางก็น่าจะโดนสหบาทาจนตาย
ตอบลบคนทำชั่ว เมื่อบาปยังไม่ส่งผล คิดว่ามีรสหวาน
ตอบลบ*บุญบาปหมุนเวียนครอบครองใจ*บุญกุศลมีความสำคัญต่อชีวิตของเราเป็นอย่างมาก ถ้าเราไม่ทำบุญเอาไว้มากๆแล้ว ชีวิตหลังความตาย เราจะลำบาก ฉะนั้น จงอย่าได้ประมาทในชีวิต อย่าเบื่อหน่ายในการสร้างบารมี อย่าท้อ อย่าชะล่าใจว่า เราทำเยอะแล้ว ถ้าทำมากแล้ว เราต้องสมปรารถนาในทุกๆสิ่ง
ตอบลบ-แต่นี่เรายังไม่สมปรารถนาในทุกๆสิ่ง คือบางสิ่งเราสมปรารถนาแล้ว แต่บางสิ่งยังไม่สมปรารถนา เพราะว่าในใจของเรานี้ เป็นศูนย์กลางที่ให้บุญและบาปหมุนเวียนกันมาครอบครอง ช่วงไหนเราไม่ได้ทำบุญ ช่วงนั้นแหละ เป็นช่วงของบาป จะได้ช่องทำให้เราไปกระทำบาป โดยที่เราไม่รู้สึกตัว
อนุโมทนาบุญค่ะ
ตอบลบนี่มัน จุดจบของมโนชัดๆ
ตอบลบเคยอ่านเรื่องของนางแล้วค่ะ ในที่สุดก็ปิดความชั่วไม่มิด
ตอบลบการเล่นงานพระมันไม่ได้บุญหรอกนะมาสร้างความดีสั่งสมบุญดีกว่านะ
ตอบลบสาธุสาธุสาธุอนุโมทามิ
ตอบลบสาธุสาธุสาธุอนุโมทามิ
ตอบลบคนชั่วทำดีได้ยาก คนดีทำชั่วได้ยาก จะดีจะชั่วตัวคุณเห็นเอง
ตอบลบคนทำชั่ว ก็รอบาปส่งผล
ตอบลบทำดีได้ดี. ทำชั่วได้ชั่ว
Social คือดาบ2 คม
ตอบลบคมดาบแรกคือ รวดเร็ว ฉับไว
คมดาบสองคือ ความรวดเร็ว ฉับไว ทำให้ตัดสินใจโดยไม่ไตร่ตรอง
ใช้ดีๆก็เกิดประโยชน์ ใช้ในทางไม่ดีก็เกิดโทษนะคะ
ตอบลบคนพาลจงแพ้ภัยตัวเอง
ตอบลบถ้าสื่อเลือกเงินก็จะใส่ร้ายใส่ความพระสงฆ์ ถ้าสื่อเลือกบุญก็จะออกสื่อดีๆ ของพระสงฆ์
ตอบลบทำประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นเถิด
ตอบลบทำเต็มกำลังปัญญาสามารถ เอาบุญปกป้องพระพุทธศาสนา จะได้อานิสงส์เต็มๆ คู่ไปกับอายุโซเชียลเลย ค้าาบ
ตอบลบอ่านจบแล้วไปเพิ่มเติมข้อแท้จริงเพื่อปิดอบายให้กับความไม่รู้ได้ที่นี่นะครับhttp://universityshare.blogspot.com/2016/02/590227lookworld.html
ตอบลบทำเต็มกำลังปัญญาสามารถ เอาบุญปกป้องพระพุทธศาสนา จะได้อานิสงส์เต็มๆ คู่ไปกับอายุโซเชียลเลย ค้าาบ
ตอบลบสื่่อสมัยนี้ เสื่อมไร้จรรยาบรรณ ไม่รับผิดชอบต่อสังคม เห็นแก่ประโยชน์ของตัวเอง
ตอบลบทำลายพระพุทธศาสนาก็คือทำลายตัวเองและผู้อื่น
ตอบลบ👍🙏🙏🙏
ตอบลบสัมมาทิฎฐิ และการรู้จักมีวินิจฉัยก่อนการตัดสินใจ เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกๆคนต้องฝึกให้มีไว้ในตัวตนของเรา
ตอบลบจุคนี้สมัยนี้ สื่อคือตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางทางสังคม ถ้าสื่อถูกใช้เป็นเงื่อนไขของผู้มีอำนาจเท่ากับว่าสังคมโดยรวมจะอยู่ในอำนาจคนๆนั้นผ่านสื่อ
ตอบลบแต่ถ้าสื่อมีจุดยืนที่เที่ยงธรรม ทำตามจรรยาบรรณในหน้าที่อย่างสุจริต ช่วยเผยแพร่ข่าวในด้านที่ถูกต้อง นอกจากจะเป็นการจรรโลงสังคมแล้วยังสร้างความสงบสุขและสันติให้กับสังคมได้
สื่อจึงเป็นเสมือนแสงสว่างกับความมืดในเวลาเดียวกัน
One reaps whatever one has sown.
ตอบลบThose who do good recieve good.
and those who do evil recieve evil.
"บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น
ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี
ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว "
#พุทธพจน์
สังคมจะดีได้ ทุกคนต้องรู้จักทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา รู้จักให้อภัย และไม่คิดร้ายกับผู้อื่น
สังคมไทย เห็นดีเห็นงามกับความรุนแรง และทำบาปมากขึ้นจริงๆ น่ากลัว ถ้าใช้พระพุทธศาสนาอบรมจิตใจไม่ได้
ตอบลบคนพาลมีทุกยุคทุกสมัยเลย ขออย่าให้ข้าพเจ้าเข้าหาคนพาลเลย และคนพาลจงอย่าเข้ามาใกล้ข้าพเจ้าเลยไม่ว่าจะเป็นชาติไหนๆ อย่าได้พบอย่าได้เห็นเลย
ตอบลบโซเชียลถ้าเราใช้ในทางที่ถูกต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องมันก็มีประโยชน์ครับ แต่ถ้าใช้ในทางที่กลับกันมันก็จะเกิดโทษ
ตอบลบสังคมจะดีได้ ทุกคนต้องรู้จักทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา รู้จักให้อภัย และไม่คิดร้ายกับผู้อื่น
ตอบลบประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม เพราะกิเลสตัวเดียวกัน ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น จะต่างกันก็เพียงแต่รูปแบบและยุคสมัยเท่านั้นฯ
ตอบลบอุตส่าห์เกิดมาเป็นมนุษย์ก็ควรใช้สติปัญญากลั่นกรอง อย่าให้ใครมาชักจูงเราง่ายๆ ไม่งั้นเราจะตกเป็นเครื่องมือของคนชั่วที่พูดเก่งเสียเปล่าๆ
ตอบลบขอเพิ่มเติมข้อกฎหมายด้วยนะคะ่ สำหรับผู้ที่ใส่ร้ายป้ายสีและเผยแพร่ข่าวเท็จทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ต้องได้รับโทษปรับและจำด้วยนะค่ะในข้อหาหมิ่นประมาท
ตอบลบสาธุครับ
ตอบลบพุทธศาสนาไม่เคยล้าสมัยเลย
ตอบลบ...เขาจะรู้ แก่ใจ บ้างไหมนะ
ตอบลบกรรมหมิ่นพระ หนักหนา สักแค่ไหน
พุทธกาล ปลาสีทอง ปากเน่าใน
เคยด่าพระ พอตายไป อเวจี
...เป็นชาดก เรื่องจริง ที่สะท้อน
อดีตย้อน มาใหม่ ในยุคนี้
โลกออนไลน์ ใครลงก่อน เชื่อทันที
สนุกดี แถมฟรีกรรม ช้ำใจเอย...
เพราะความไม่รู้ทำให้นางจิณจมาวิกาต้องถูกธรณีสูบเพราะไปกล่าวตู่ผู้บริสุทธิ์คือพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นเรื่องไม่จริง สุดท้ายความจริงก็ปรากฏ ใครทำกรรมใดไว้ จะต้องเป็นผู้รับผลกรรมนั้น
ตอบลบสาธุครับ
ตอบลบคนบางคนรับข้อมูลด้านเดียว นานจนไม่รู้ว่าข้อมูลนั้นบิดเบือน ครั้นให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกมุมหนึ่ง เพื่อเสริมปัญญา ก็รับไม่ได้ บางคนก็ปิดหูปิดตาปิดใจตนเองไม่รับเลย น่าเสียดาย สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมจริงๆ
ตอบลบคนบางคนรับข้อมูลด้านเดียว นานจนไม่รู้ว่าข้อมูลนั้นบิดเบือน ครั้นให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกมุมหนึ่ง เพื่อเสริมปัญญา ก็รับไม่ได้ บางคนก็ปิดหูปิดตาปิดใจตนเองไม่รับเลย น่าเสียดาย สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมจริงๆ
ตอบลบบางคนก็ปิดหูปิดตาปิดใจตนเองไม่รับเลย น่าเสียดาย สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมจริงๆ
ตอบลบสื่อทำให้คนเป็นสัมมาทิฏฐิหรือมิจฉาทิฏฐิก็ได้ อยู่ที่การนำเสนอที่จะทำให้ใจผู้เสพ มีความสุข หรือหมอง
ตอบลบพุทธบริษัท 4 ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว
ตอบลบกำลังใจให้ผู้ที่ออกมาปกป้องพระพุทธศาสนา ครับ สาธุๆ
พุทธบริษัท 4 \\\Strong///
สังคมจะสงบและมีความสุขมากขึ้น ถ้าไม่ใช้อคตินำความคิด และควรให้โอกาสตัวเองพิจารญาณก่อน ถ้าไม่แน่ใจ ไม่ควรตามกระแสไม่ดีไปก่อน
ตอบลบควรเปิดใจรับฟังวัดพระธรรมกายกันบ้างนะค่ะ
ตอบลบเพราะเราชาวพุทธด้วยกัน สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ส่งผลดีกับศาสนาพุทธเลย
สาธุคะ
ตอบลบใส่ร้ายพระมีทุกยุคสมัย ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจในสังคม
ตอบลบในที่สุดคนพาลก็ต้องรับกรรม
ตอบลบผู้ที่มีดวงปัญญาย่อมจะแสวงหาแต่สิ่งที่ถูกต้อง และมีประโยชน์กับตนเอง ด้วยความเป็นธรรม
ตอบลบอนโมทนาบุญ
ตอบลบอนโมทนาบุญคับ
ตอบลบพอทางวัดใช่โซเซียลตอบกลับไปบ้าง ทั้งที่ทางวัดโดนเล่นงานมาเป็น สิบ ๆ ปีไม่เคยทำอะไร จะให้มาตรวจสอบ จะเอาคุกมาให้ซะงั้น แต่ฝ่ายเขทำอะไรก็ได้ บางครั้งบิดเบียนจนแทบจะไม่เหลือความจริงเลยก็ตสม
ตอบลบนายมะโน กลัวกรรมหนักแบบนางจิณจมาณวิกา ธรณีสูบบ้างมัยอ่ะ รวมถึงทุกคนที่ทำกรรมหนักบ้างมัย
ตอบลบ請大家團結一致保護佛教。
ตอบลบ尊敬的法勝法師,努力弘揚佛法,努力宣揚世界和平,值得令人敬仰。
請大家團結一致保護佛教。
ตอบลบ尊敬的法勝法師,努力弘揚佛法,努力宣揚世界和平,值得令人敬仰。
คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงเวลาสนทนากับพระ ยังไม่รู้เลยว่าจะใช้คำแทนตัวเองด้วยประโยคไหน ไปทำบุญที่วัดก็ไปหยอดตู้ แล้วเดินเที่ยวหาของกิน ฉะนั้นพอมีอะไรใหม่ๆขึ้นมาก็จะเป็นเรื่องแปลก สอนผิดเพี้ยน ไม่ได้ดูที่เจตนา สุดท้ายก็มารบกันเองให้ต่างศาสนาหัวเราะ
ตอบลบคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงเวลาสนทนากับพระ ยังไม่รู้เลยว่าจะใช้คำแทนตัวเองด้วยประโยคไหน ไปทำบุญที่วัดก็ไปหยอดตู้ แล้วเดินเที่ยวหาของกิน ฉะนั้นพอมีอะไรใหม่ๆขึ้นมาก็จะเป็นเรื่องแปลก สอนผิดเพี้ยน ไม่ได้ดูที่เจตนา สุดท้ายก็มารบกันเองให้ต่างศาสนาหัวเราะ
ตอบลบผู้สื่อข่าวสมัยนี้ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงชีวิต ไมีรู้ว่ายังใส่ใจกับคำว่าจรรยาบรรณ อยู่มากน้อยแค่ไหน น่าเป็นห่วงจริงๆ
ตอบลบผู้สื่อข่าวสมัยนี้ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงชีวิต ไมีรู้ว่ายังใส่ใจกับคำว่าจรรยาบรรณ อยู่มากน้อยแค่ไหน น่าเป็นห่วงจริงๆ
ตอบลบทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
ตอบลบหากจะมีใครโดนธรณีสูบอีก ก็คงต้องเป็น4-5 ตัว.. ที่มุ่งทำลายพระพุทธศาสนา และมุ่งล้มล้างสถาบันสงฆ์ ในเมืองไทยปัจจุบัน
ตอบลบสังคมยุคนี้ มีคนอย่างนางจิญจมานวิกามากขึ้นทุกที แถมสื่อเองก็เป็นสื่อสีดำไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ ขอให้มีรายได้เข้ามา จะให้ลงข่าวอย่างไรก็จัดให้หมด บ้านเมืองเลยหาความสงบสุขไม่ได้ ถึงเวลาแล้วที่ชาวพุทธทั้งหลายจะต้องช่วยกัน แก้ไขสถานการณ์ของพระพุทธศาสนาให้ดีขึ้น ก่อนที่จะสายเกินไปครับ
ตอบลบผลของการกระทำ ประกอบเหตุสังเกตุผล
ตอบลบผลของการกระทำ ประกอบเหตุสังเกตุผล
ตอบลบสาธุๆๆๆ
ตอบลบชาวพุทธต้องช่วยกันค่ะ. อย่าทำร้ายพระด้วยคำพูดที่ไม่สุภาพ ไม่ให้เกียรติพระท่าน สังคมไทยสอนให้เคารพพระ เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ อย่าด่วนตัดสินใครโดยไม่มีข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจน เราจะได้ไม่ติดบาปติดกรรมกันโดยไม่รู้ตัว นะต้องช่วยกันดำรงศาสนาพุทธไว้ให้ได้ค่ะ
ตอบลบบุญและบาป ผู้ทำย่อมได้รับผลนั้น
ตอบลบคุณเลือกได้
แต่จะเลือกไหมล่ะ
หรือจะรอจนลมหายใจสุดท้าย
คุณเท่านั้นกำหนดชีวิตของคุณ
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
ตอบลบมีผลแน่นอน ช้าหรือเร็วแต่แน่นอน
มาทำดีละชั้วกันดีกว่าค่ะ
ตอบลบมาทำดีละชั้วกันดีกว่าค่ะ
ตอบลบวัดพระธรรมกายสอนให้เข้าใจถึงกฎแห่งกรรม หลวงพ่อสอนให้พวกเราเข้าใจอย่างถ่องแท้. ไม่มีใครทิ้งวัดทิ้งหลวงพ่อหลอกถ้าเข้าใจอย่างแท้จริง
ตอบลบใครทำบาปเมื่อยังไม่ส่งผบก็คิดว่ารสหวาน ถ้ากรรมตามทันจะรู้สึก
ตอบลบหลวงพ่อสอนกฏแห่งกรรมทุกวันนี้ละอายชั่วกลัวบาปค่ะ
ตอบลบ