บทเรียน กรณี พระยันตระ อมโร
สื่อต่างๆ ทั้งโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์แย่งกันนำเสนอข่าวหลากรูปแบบ เพื่อกระตุ้นยอดขายโดยไม่สนใจข้อมูลเท็จจริงแต่อย่างใด
พฤติกรรมสามานย์สารพัดถูกนำมาใช้ใส่ร้ายป้ายสีเพื่อให้ดูชั่ว
ถึงขนาดส่งคนไปเผากุฏิไม้ที่ท่านอาศัยปฏิบัติธรรมบนยอดเขา
เพื่อสร้างข่าวเอามาขาย
แม้พระพุทธรูปทองเหลืองยังต้องหลอมละลายเพราะความร้อน
รุ่งเช้าก็มีข่าวพาดหัวตัวไม้ใหญ่ยักษ์
"ฟ้าพิโรธ ลงโทษยันตระ"
สื่อแบกะดินที่แทบไม่ใครรู้จักและอยู่ในภาวะใกล้ล้มละลาย รุ่งเรืองเฟื่องฟูขึ้นมาทันที เพราะจับทาง
คนได้ว่า "นิยมเสพข่าวร้ายมากกว่าข่าวดี"
แต่สื่อยักษ์ใหญ่อย่างไทยรัฐ สมเป็นสื่ออันดับหนึ่งของเมืองไทย
คือยึดหลักขายความจริงมากกว่ามุ่งยอดขายข่าวเท็จที่หวือหวา
ได้ส่งนักข่าวเกรดเอเงินเดือนสูงไปบวชเป็นพระเพื่อสืบค้นความจริง
ก่อนพระนักข่าวรูปนั้นจะลาสิกขา ได้กล่าวสารภาพความจริงต่อหน้าพระสงฆ์และญาติธรรมว่า
"ผมเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถูกส่งมาบวชเพื่อมาเจาะหาความจริง ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ได้ร่วมปฏิบัติธรรมกับหมู่คณะ ผมประจักษ์ชัดทั้งด้วยตัวเองและข้อมูล ขอสารภาพเปิดใจ ณ ที่ตรงนี้ต่อหน้าทุกท่านว่า.....
...ผมเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของ
พระอาจารย์ยันตระ อมโรครับ"
หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปไม่นานนัก นางจันทิมา มายะรังสีก็ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง
แต่อนิจจจาสื่อไทยที่จรรยาบรรณตายไปแล้ว
ไม่มีสื่อใดลงข่าวคำสารภาพของนางจันทิมา มายะรังสีก่อนเสียชีวิตเลย
นอกจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และลงเพียงกรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆเท่านั้น
"ก่อนตายดิฉันขอสารภาพความจริง เพื่อไถ่บาปว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับพระอาจารย์ยันตระไม่มีมูลความจริง แต่เพราะความโกรธแค้นที่ถูกลูกศิษย์ขัดขวางไม่ให้เข้าใกล้พระอาจารย์ ประกอบกับดิฉันอยู่ในภาวะร้อนเงินด้วย เมื่อมีคนว่าจ้างรับปากจะช่วยเหลือ และสัญญาจะส่งเสียลูกสาวเล่าเรียนดิฉันจึงต้องทำงานนี้ให้กับเขา"
บทเรียน กรณี พระยันตระ อมโร
Reviewed by bombom55
on
07:27
Rating:
โลกนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน เพิ่งจะรู้ความจริงวันนี้เอง ถ้าเราไม้ได้เป็นศิษย์ท่าน ไม่ได้เคยพบท่านเลยสักครั้ง ก็เลยหลงเชื่อข่าวลือต่างๆนานา ขออโหสิกรรมให้ด้วยค่ะที่เคยเข้าใจท่านผิด
ตอบลบโลกนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน เพิ่งจะรู้ความจริงวันนี้เอง ถ้าเราไม้ได้เป็นศิษย์ท่าน ไม่ได้เคยพบท่านเลยสักครั้ง ก็เลยหลงเชื่อข่าวลือต่างๆนานา ขออโหสิกรรมให้ด้วยค่ะที่เคยเข้าใจท่านผิด
ตอบลบคนไทยทิฏฐิสูง. ความรักในพระพุทธศาสนาน้อย. คนที่รักษาศีล5ข้ออย่างจริงจังก็น้อย. การทำทานก็ทำเฉพาะวันสำคัญ. การภาวนายิ่งไม่ต้องพูดถึง. ดังนั้นความตระหนักและรักในพระพุทธศาสนาจึงน้อย. เพราะเป็นพุทธแต่ในทะเบียนบ้าน. ไม่เชื่อในกฎแห่งกรรม. ไม่เกรงกลัวต่อบาป
ตอบลบเราก็เคยเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์ยันตระ ทุกวันนี้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนท่านก็ยังบริสุทธิ์ และยังคิดถึงท่านเสมอ
ตอบลบเราก็เคยเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์ยันตระ ทุกวันนี้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนท่านก็ยังบริสุทธิ์ และยังคิดถึงท่านเสมอ
ตอบลบใช่ ยังระลึกถึงท่านยันตระเสมอ
ตอบลบใช่ ยังระลึกถึงท่านยันตระเสมอ
ตอบลบบทเรียนนี้สอนให้รู้ว่าอย่าเห็นแก่สิ่งตอบแทนเล็กน้อยๆ
ตอบลบควรมีคุณธรรมในใจสร้างแต่สิ่งดี และยึดคุณธรรม ความเจริญก็จะย่อมเกิดแก่ตนเสมอ
สื่อมีผลต่อความคิด คำพูด การกระทำของผู้ที่ได้อ่านโดยไม่ได้พิจารณาตามความเป็นจริง ข้าพเจ้าก็เคยเชื่อตามสื่อเหมือนกัน ขอกราบอโหสิกรรมต่อพระอาจารย์ยันตระ อมโรด้วยเจ้าค่ะ
ตอบลบสื่อมีผลต่อความคิด คำพูด การกระทำของผู้ที่ได้อ่านโดยไม่ได้พิจารณาตามความเป็นจริง ข้าพเจ้าก็เคยเชื่อตามสื่อเหมือนกัน ขอกราบอโหสิกรรมต่อพระอาจารย์ยันตระ อมโรด้วยเจ้าค่ะ
ตอบลบไม่กลัวบาปกลัวกรรมกันบ้างเลย
ตอบลบชาวพุทธต้องร่วมมือรักสามัคคีกัน เพราะภัยทั้งภายในและภายนอกพระพุทธศาสนา ในยุคที่คนพาลมีอำนาจจึงเที่ยวกำจัดฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่เกรงกลัวบาปกรรม
ตอบลบทำดีได้แต่อย่าเด่นจะเป็นภัย
ตอบลบไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน...
เราจึงได้เห็นประเทศไทยไม่พัฒนาไปไหนไกลเลย
คนดีๆไม่ว่าแขนงไหน..อยู่ไทยยากกกก
ถึงจะเกิดไม่ทันในยุคนั้น แต่ก็ยังเชื่อในความบริสุทธิ์ของพระอาจารย์ยันตระเสมอ เพราะทั้งพ่อและแม่เป็นลูกศิษย์ของท่าน ตั้งแต่ท่านยังไม่มีชื่อเสียงโด่งดัง
ตอบลบhttp://narater2010.blogspot.com/2012/09/blog-post_7265.html?m=1
ลบเลือดไม่มีทางหยุดไหล.จนกว่า..
จะหยุดแบ่งแยกแล้วฮึดสู้ เพื่อเหลือ
ชาต ศาสนา พระมหากษัตริย์ไว้ให้ลูกหลาน
ก่อนแผ่นดินนี้ จะเป็น นาลันทา และ บูโรพุทธโธ
ผมขอโทษพระอาจารย์ยันตระครับ เมื่อก่อนผมก็เป็นคนหนึ่งที่เชื่อข่าวใส่ร้ายท่าน ทำให้ผมหลงด่าท่านด้วยครับ ผมสำนึกผิดแล้วครับ ผมขอขอขมาแก่ท่าน ขอให้ท่านอดโทษและอโหสิกรรมแก่ผมด้วยครับ
ตอบลบ