ขอความเป็นธรรม ต่อ อัยการ ขอความยุติธรรม คืนมา

หวังดี ไม่ประสงค์ร้าย ต่อหลวงพ่อธัมมชโย
ตามที่ทนายได้เขียนเกี่ยวกับหลวงพ่อฯ มาหลายครั้ง

เวลานี้เห็น นายไพบูลย์ นิติตะวัน ได้ออกข่าวกดดันการทำงานของอัยการชุดใหม่ เพื่อบีบให้ฟ้องหลวงพ่อฯ ในข้อหารับของโจรและฟอกเงิน

ทนายฟันกลางใจลูกศิษย์หลวงพ่อ แบบไม่ต้องเกรงใจ คิดว่า ๓๐ พ.ย.นี้ ถ้าไม่มีอะไรมาช่วยหลวงพ่อฯ ไว้ อัยการคงสั่งฟ้องแน่นอน

เหตุผลง่ายๆ เป็นไปตามหลักกฏหมาย แบบเฉลยออกมาลูกศิษย์หลวงพ่อเถียงไม่ออก แบบตกทะเลไปเลย

หลักคดีอาญามีอยู่ว่า เมื่องไทยเป็นระบบกล่าวหา เมื่อมีการกล่าวหา ผู้กล่าวหา ต้องหาพยานมาสืบให้ได้ว่า จำเลยหรือผู้ต้องหา ผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง

ในชั้นสอบสวนและอัยการ พยานที่ตำรวจหรืออัยการสอบเกือบทุกปาก เป็นพยานที่จะเอาผิดผู้ต้องหา เกือบทั้งนั้น ยกเว้นแต่ว่า ทนายจำเลยมีกึ๋น ก็สามารถเอาตัวรอดได้

ดีเอสไอ ทำงานแบบตำรวจ คือสอบแต่พยานผู้กล่าวหา คือพยานที่เอาผิดหลวงพ่อฯ ดีเอสไอไม่สอบพยานที่เป็นประโยชน์ต่อหลวงพ่อหลอกฯ ไม่รู้ดีเอสไอ จะพูดแบบตำรวจบางคนหรือเปล่า ที่ชอบพูดว่า เขาไม่มีหน้าที่สอบพยานผู้ต้องหา พยานผู้ต้องหา ให้ไปให้การที่ศาลเลย

ซึ่งเดี๋ยวนี้ถ้าพยานคนใดไม่เคย ให้การต่อพนักงานสอบสวน ไปเป็นพยานที่ศาล ศาลจะไม่ค่อยรับฟัง ศาลจะถามว่า แล้วเวลาสอบพยานฝ่ายจำเลย ทำไมไม่ไปให้การ แสดงว่าพยานดังกล่าวมาเบิกความชั้นศาล เพื่อช่วยจำเลย หรือจำเลยจ้างมา รับฟังไม่ค่อยได้

เวลานี้สำนวนคดีความ อยู่ชั้นอัยการ ยังไม่มีคำสั่งลงมา ทนายไม่ขอเสือก แต่ขอแทรกหน่อย อย่าไปร้องสภาทนายความว่า ทนายมาแย่งคดีหลวงพ่อนะ ทนายไม่เคยคิดแย่งคดีใครทำ แต่เขียนด้วยความห่วงใยหลวงพ่อ เท่านั้นเอง

ถ้าทนายเป็นทนายหลวงพ่อ ทนายจะยื่นคำร้อง ขอความเป็นธรรมต่ออัยการ ขอสอบพยานฝ่ายหลวงพ่อเพิ่มเติม โดยให้เหตุผลสั้นๆ ง่ายๆ ว่าในชั้น ดีเอสไอ เคยจะขอความเป็นธรรมไปแล้ว แต่ ดีเอสไอ แจ้งว่าให้ไปร้องขอความเป็นธรรมในชั้นอัยการ หรือศาลเอาเอง

หลังจากยื่นคำร้อง ขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการแล้ว ก็ระบุประเด็นให้ชัดเจนว่า มีประเด็นอะไรบ้าง ที่พิสูจน์ว่า หลวงพ่อไม่ผิด พร้อมระบุพยาน ที่จะให้การในประเด็นดังกล่าวไว้

ประเด็นอะไรที่หลวงพ่อไม่ผิด ไปคิดเอาเองก็แล้วกัน เดี๋ยวจะผิดมารยาททนายความ

ถ้าอัยการสอบพยานของหลวงพ่อครบทุกประเด็น อันนี้น่าคิดแล้วครับว่า ทั้งสองฝ่ายมีพยานมาหักล้างกัน พยานฝ่ายไหนน่าเชื่อถือกว่ากัน และการจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ต้องชั่งน้ำหนัก

ดีกว่าปัจจุบันนี้ พยานมีฝ่ายกล่าวหาฝ่ายเดียว ตายกับตาย

เอวังก็เป็นด้วยประการฉะนี้

ทนายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล 

จันทร์ ๑๔ พย.๕๙ ๒๑.๐๐ น. 

คืนลอยกระทงที่เงียบเหงา