รัฐบาลต้องตาสว่าง!!
รัฐบาลต้องตาสว่าง!!
"ที่ทำงานใหญ่สำเร็จ เพราะสมเด็จไม่ได้ทำเพื่อตัว แต่ทำเพื่อสังคม
ประชาชนเห็น แต่รัฐบาลมือใหม่แม้จะผ่านมา 2 ปี ก็ยังมืด
ถึงเวลาตาสว่างได้แล้ว"
---+++---+++---+++---+++
เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2559 วงการพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชน ตั้งใจคอยฟังว่า
คณะกรรมการกฤษฎีกาจะตีความมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.สงฆ์
เรื่องการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ออกมาอย่างไร
เมื่อถึงเวลากฤษฎีกาว่าตีความเสร็จแล้ว แต่บอกไม่ได้
ผู้ที่ส่งเรื่องมาจะเป็นผู้บอก เมื่อตามไปที่ผู้ส่งเรื่องก็บอกว่า
ต้องดูให้ละเอียดแล้วส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ จึงจะบอกได้ เด็กๆ
ฟังก็ฟันธงว่าเหมือนการดึงเรื่อง ซึ่งไม่จริงใช่ไหม
ความจริงมาตรา 7 ไม่มีอะไรซับซ้อน
นอกจากเป็นเรื่องใหม่ ที่เพิ่งจะใช้กับสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่
ดังนั้นมติมหาเถรสมาคม (มส.) ที่ออกมาเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2559 นั้น ได้ผ่านการกลั่นกรองจากมหาเถระและนักกฎหมายระดับปรมาจารย์
จึงไม่น่าจะพลาด
แต่องค์กรหนึ่งอยากทำงาน เอาไปตีความว่าที่ มส.มีมตินั้นผิด
เรื่องนี้ถ้าคนเกี่ยวข้องแตกฉานภาษาไทย จะเข้าใจเจตนารมณ์ของมาตรา 7 ดี
เพราะมาตรานี้ ไม่ว่าคุณจะคิด เขียนวกวนมาอย่างไรก็ต้องมี มส.เป็นเซ็นเตอร์ ตลอด ไม่เชื่อลองอ่านอีกครั้ง
มาตรา 7 พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์หนึ่ง ในกรณีที่ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชว่างลง ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของมหาเถระสมาคมเสนอนามสมเด็จ
มาตรา 7 พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์หนึ่ง ในกรณีที่ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชว่างลง ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของมหาเถระสมาคมเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช
เห็นไหม ไม่ว่าจะยอกย้อนอย่างไรก็ไม่พ้น มส.
เช่น มส.เริ่มก่อน ก็ไปที่นายกฯ หรือนายกฯ เริ่ม ก็ต้องมาที่ มส.แล้วไปที่นายกฯ
อีก ตัวละครมี 2 เท่านั้น
น่าเห็นใจ พระมหาเถระที่อาวุโสโดยสมณศักดิ์
อย่างสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ที่ถูกดึงเรื่องไม่ให้ก้าวไปที่ขั้นสูงสุด
แต่ท่านไม่ท้อถอย ยังทำงานหนักเพื่อนำคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาโดยไม่มีวันหยุด
งานบางอย่างไม่อยากเชื่อว่าพระผู้ใหญ่วัย 91 ปี จะทำได้ เช่น
ความวิริยะในการขับเคลื่อนให้คนในชาติรู้รักสามัคคี มีความสมานฉันท์
ไม่เบียดเบียนกัน ยึดมั่นคุณงามความดี
มีศีลธรรมอันดีภายใต้โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ก็ทำอย่างต่อเนื่อง
ถ้าศึกษาย้อนกลับไปวันวารที่ท่านเป็นพระผู้น้อย
จะพบสิ่งสาธารณกุศลที่ท่านสร้าง ท่านทำเพื่อความมั่นคงแห่งพระพุทธศาสนา
รวมเป็นตัวเงินเกินหมื่นล้านบาท ซึ่งประชาชนบริจาคด้วยความเคารพศรัทธาในองค์หลวงพ่อสด
และความเคารพรักที่มีต่อหลวงพ่อสมเด็จที่เป็นพระนักพัฒนา-นักสังคมสงเคราะห์
เป็นที่พึ่งของชาวพุทธทั้งมวลมาเนิ่นนานกว่า 70 ปี
ถ้าอยากทราบว่าท่านทำอันใดเพื่อพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ
ให้แวะไปที่พุทธมณฑล จะพบถาวรวัตถุ ศาสนวัตถุ รวมทั้งพระไตรปิฎกที่จารึกไว้ในหินอ่อนที่สมเด็จท่านเป็นผู้นำและทำไว้
ที่ทำงานใหญ่สำเร็จ เพราะสมเด็จไม่ได้ทำเพื่อตัว แต่ทำเพื่อสังคม
ประชาชนเห็น แต่รัฐบาลมือใหม่แม้จะผ่านมา 2 ปี ก็ยังมืด
ถึงเวลาตาสว่างได้แล้ว
โดย ส.คลองเตย
# รัฐบาลต้องตาสว่าง
# แชร์วนไป
รัฐบาลต้องตาสว่าง!!
Reviewed by bombom55
on
05:00
Rating:
คุณสมบัติท่านก็ครบถ้วน...เลยเป็นงง.ว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะขวางท่านทำไม...ไม่เข้าใจมากมาย...หรือประเทศไทยไม่เอาศาสนาพุทธไว้แล้วหรืออคะ...เศร้าใจจังคะ...
ตอบลบ