ชี้แจงประเด็น ข้อแท้จริงเรื่องใบรับรองแพทย์ ผู้ป่วยอาการหนักทำไมไม่ไป ร.พ.?


ชี้แจงประเด็น ข้อแท้จริงเรื่องใบรับรองแพทย์


ความรู้เรื่อง "การออกใบรับรองเเพทย์" ของหลวงพ่อธัมมชโย

ในความเห็นส่วนตัวของหมออีกคนหนึ่งเรื่องใบที่มีต่อความเห็นแพทย์จาก รพ.ค่ายภาณุรังษี จ.ราชบุรี

1. ใบความเห็นแพทย์นี้ "ไม่ได้เป็นเท็จ" เพราะเห็นจากภาพคุณหมอเดินทางมาตรวจรักษาจริง ผู้ป่วยเจ็บป่วยจริง 

และความเห็นทางการแพทย์ที่ให้ ถูกต้องตามหลักวิชาการจริง และออกโดยสุจริต 

ซึ่งสามารถให้องค์กรแพทย์ หรืออาจารย์แพทย์ ที่เป็นกลางมาตรวจการเจ็บป่วยได้ แต่ DSI ตอบสังคมไม่ได้ว่าทำไมไม่เชิญมาตรวจร่วมกันกลับรีบไปออกหมายจับก่อน


2. กรณีการออกใบความเห็นแพทย์ให้กับผู้ป่วยที่แพทย์ไปตรวจนอกสถานพยาบาล สามารถทำได้  ซึ่งแต่ละโรงพยาบาลมีแนวทางการตรวจ และออกใบความเห็นแพทย์ ที่แตกต่างกันไป ในแต่ละโรงพยาบาล หรือบางโรงพยาบาล ก็ยังไม่เคยมีแนวทางใดๆ มาก่อนเลยก็เป็นได้ 

ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ได้เป็นบุคลกกรใน รพ.แห่งนั้นไม่รู้ว่า แนวทางปฏิบัติของ รพ.แห่งนั้นเขียนไว้อย่างไร เป็นสิ่งที่ รพ.ต้องนำมาอธิบายเพื่อแสดงความโปร่งใสในการกล่าวโทษคุณหมอผู้กลายเป็นจำเลยสังคม ซึ่งถ้าคุณหมอทำผิดขั้นตอนจริง ก็เป็นเรื่องของการกระทำโดยไม่ได้มีเจตนาทุจริต มีแต่เจตนาสุจริตและเมตตาต่อผู้ป่วย


3.ผมเองก็เคยออกใบความเห็นแพทย์โดยที่ผู้ป่วยไม่ได้มารักษาใน รพ. เช่นกัน 
ผมออกไปดูแลผู้ป่วย ณ จุดเกิดอุบัติเหตุ และนำส่งไป รพ.ระดับสูงกว่า เลยไม่ได้พามาที่ รพ.ของผม ผมก็ให้การรักษาแล้วก็กลับมาเขียนในเวชระเบียน และออกใบความเห็นแพทย์ได้ และผมก็เคยไปออกใบรับรองผู้พิการที่บ้าน โดยไม่ต้องนำผู้ป่วยมา รพ.



เหตุผล ที่คุณหมอท่านนั้น ต้องทำเวชระเบียนของหลวงพ่อ เพราะวันที่ พฤษภาคม ที่ท่านมีอาการหนักขึ้น อาการปวดขากำเริบมากผิดปกติ ทางทีมแพทย์ได้เชิญคุณหมอทางศัลยกรรมหลอดเลือดมาให้การตรวจรักษาและให้คำปรึกษา คุณหมอศัลยกรรมหลอดเลือดให้ความเห็นว่าเป็นภาวะฉุกเฉินที่เกิดซ้ำซ้อน (on top) ภาวะเลือดอุดตันเรื้อรังที่เป็นอยู่เดิม จึงให้ท่านนอนยกขาสูง นอนนิ่งๆ งดการเคลื่อนที่ และสมควรจะได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด เพื่อป้องกันลิ่มเลือดหลุดไปอุดตันที่หลอดเลือดขั้วปอด

จึงได้หารือกันในทีม เพื่อหาคุณหมอที่รู้จัก และเชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยามาร่วมให้คำปรึกษา และร่วมรักษา ทีมแพทย์จึงได้เรียนปรึกษาคุณหมอด้านโลหิตวิทยาจาก รพ.ค่ายฯ ที่ ราชบุรี คุณหมอก็มีเมตตาเดินทางมาตรวจหลวงพ่อให้ถึงในวัด 

แล้วก็มีการหารือกันระหว่างการพาท่านไป รพ. กับการรักษาที่วัด โดยร่วมกันประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือดหลุดไปอุดตันที่ปอดหากมีการเคลื่อนย้ายหลวงพ่อ และได้ประเมินศักยภาพของห้องผู้ป่วยที่ทีมหมอลูกศิษย์จัดสร้างถวายเพื่อดูแลท่านในวัด (ซึ่งสร้างมานานมากแล้ว) โดยมีแพทย์ที่เป็นลูกศิษย์ดูแลไกล้ชิด 24 ชม. จึงน่าจะปลอดภัยกับหลวงพ่อมากกว่า หากให้การรักษาที่วัด รวมถึงเป็นประสงค์ของท่านที่ต้องการรักษาอยู่ที่วัดมากกว่าไปโรงพยาบาล

คุณหมอด้านโลหิตวิทยา ได้มีเมตตาว่าจะนำประวัติความเจ็บป่วย และผลการตรวจร่างกายที่ได้ ในวันนั้นไปบันทึกในเวชระเบียนที่ รพ. ที่ตนเองปฏิบัติงานอยู่ เพื่อที่จะเป็นการรักษาแบบเยี่ยมบ้าน (home visit) ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทำได้ และมีการทำกันอยู่เป็นมาตรฐานทั่วไปในเกือบทุกโรงพยาบาลของรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสั่งยาจากโรงพยาบาล เพื่อไปรักษาผู้ป่วยที่นอนติดเตียงที่บ้านเคลื่อนย้ายลำบากโดยไม่ต้องให้ผู้ป่วยมาที่ รพ.  รวมถึงบ่อยครั้งญาติผู้ดูแลอาจมารับยาแทนผู้ป่วย

ในกรณีของหลวงพ่อ คุณหมอจึงช่วยหายาต้านการแข็งตัวของเลือดมาจากทาง รพ. ค่ายฯ จ.ราชบุรี เพื่อมาช่วยรักษาหลวงพ่อ ซึ่งในตอนนั้น ที่สหคลินิกรัตนเวชยังหาซื้อยาป้องกันการแข็งตัวของเลือดนี้ไม่ได้ ในการทำเวชระเบียนในครั้งนั้นจึงเป็นไปเพื่อหวังประโยชน์จากการหายาที่จำเป็นเร่งด่วนเพื่อรักษาผู้ป่วย

ซึ่งคุณหมอได้กระทำไปด้วยเมตตาธรรมและความสุจริตใจ และได้ออกใบความเห็นแพทย์ แนะนำให้ท่านนอนพักนิ่งๆ ยกขาสูง งดการเคลื่อนที่และภารกิจ เพื่อป้องกันภาวะลิ่มเลือดหลุดไปที่ปอด แต่ในภายหลัง สหคลินิกรัตนเวชสามารถหายามาได้เอง จึงไม่ต้องให้ท่านเอายาออกมาจาก รพ. ค่ายฯ

ความจริงเหล่านี้ DSI จะปฏิเสธได้อีกหรือว่าหลวงพ่อท่านป่วยจริงหรือไม่ แล้วยังจะพยายามปฏิเสธใบความเห็นแพทย์จาก รพ. นี้โดยกล่าวหาว่าไม่จริง เป็นเท็จ ได้อย่างไร ในเมื่อความจริงก็ปรากฏมาอย่างชัดเจน

ด้วยความเห็นใจจึงมาส่ง

จากรอง ผอ. รพ. รัฐ แห่งหนึ่งเช่นเดียวกัน

21/5/59





ผู้ป่วยอาการหนักทำไมไม่ไป ร.พ.
?

ผม นพ. บุญศักดิ์ หาญเทอดสิทธิ์ 
แพทย์ผู้เชียวชาญสาขานิติเวชศาสตร์

ได้พบข้อความทางโลกโซเชียล เกียวกับอาการอาพาธของหลวงพ่อธัมมชโย ที่กล่าวว่าอาการหนักขนาดนี้ทำไมไม่ไป รพ.การรักษาตัวภายในวัดเป็นการรักษาที่ผิดหลักการแพทย์ 

แสดงให้เห็นว่าผู้พูดไม่มีความไม่เข้าใจในหลักกฎหมายทางการแพทย์ เรื่องสิทธิผู้ป่วยและสถานพยาบาล

ผมในฐานะแพทย์นิติเวช จึงขออนุญาตแสดงความคิดเห็นดังนี้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องแก่สาธารณชนครับ

การที่ผู้ป่วยจะตกลงปลงใจในการรักษากับแพทย์คนไหน หรือไปโรงพยาบาลไหน เป็นเรื่องสิทธิของผู้ป่วยโดยแท้ ไม่สามารถไปบังคับให้ไปรักษาได้ แม้แพทย์มีหน้าที่ดูแลรักษาโดยผู้ป่วยไม่ได้ร้องขอก็ตาม แต่ไม่สามารถไปละเมิดผู้ป่วยได้ 

หน้าที่รักษาผู้ป่วยนี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมในกรณีที่เป็นความจำเป็นและเร่งด่วนเท่านั้น (ภาวะฉุกเฉิน) 

และเมื่อผู้ป่วยยินยอมให้รักษาแล้วไม่ว่าเป็นที่ไหน แพทย์ก็รักษาได้ ไม่ขึ้นกับสถานที่ เวลา และสถานการณ์ ในป่าแพทย์ก็รักษาคนได้ 

โดยทั่วไปแพทย์มีพื้นฐานจิตใจเมตตามากอยู่แล้ว จึงมีความยินดีที่จะรักษาคนทั่วไปเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าผู้ป่วยเป็นบุคคลที่มีบุญบารมีอย่างยิ่งแล้ว แพทย์ผู้มีจิตเมตตาและมีความสามารถท่านใดทราบ ก็อยากได้บุญกันทั้งนั้น จึงไม่แปลกที่เขาเหล่านั้นจะไปรักษาหลวงพ่อธัมมชโย ถึงวัดพระธรรมกาย 

และเมื่อแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ตรวจรักษาผู้ป่วยแล้ว ก็ย่อมสามารถออกใบรับรองแพทย์ ที่แสดงภาวะสุขภาพของผู้ป่วยได้เสมอโดยไม่ขัดต่อหลักกฎหมายใดๆ

ในมุมมองของการประกอบวิชาชีพเวชในสถานพยาบาลไม่ว่าของรัฐหรือเอกชน ทั้งโรงพยาบาลและคลินิก ถ้าได้จัดตั้งและจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ก็สามารถให้บริการทางการแพทย์ได้ทั้งสิ้น

บุญศักดิ์ หาญเทอดสิทธิ์ 
พ.บ. ว.ว.(นิติเวชศาสตร์)น.บ.น.บ.ท.ส




ชี้แจงประเด็น ข้อแท้จริงเรื่องใบรับรองแพทย์ ผู้ป่วยอาการหนักทำไมไม่ไป ร.พ.? ชี้แจงประเด็น ข้อแท้จริงเรื่องใบรับรองแพทย์ ผู้ป่วยอาการหนักทำไมไม่ไป ร.พ.? Reviewed by bombom55 on 00:52 Rating: 5

11 ความคิดเห็น:

  1. งงเหมือนกันค่ะ ทำไมเป็นอย่างนี้ได้ ขอกราบขอบพระคุณและชื่นชมที่จริงใจ.รพ.รัฐแห่งหนึ่งนั้นและนพ.บุญศักดิ์ หาญเทอดสิทธิ์ ที่กล้าหาญและยืนยันสิ่งที่ถูกต้องแก่สังคมด้วยเมตตาธรรม. สมเป็นแพทย์ที่มีคุณธรรมในจิตใจสูงที่เห็นความถูกต้องเป็นหลักค่ะ

    ตอบลบ
  2. งงเหมือนกันค่ะ ทำไมเป็นอย่างนี้ได้ ขอกราบขอบพระคุณและชื่นชมที่ท่านรองผอ.รพ.รัฐแห่งหนึ่งนั้นและนพ.บุญศักดิ์ หาญเทอดสิทธิ์ ที่กล้าหาญและยืนยันสิ่งที่ถูกต้องแก่สังคมด้วยเมตตาธรรม. สมเป็นแพทย์ที่มีคุณธรรมในจิตใจสูงที่เห็นความถูกต้องเป็นหลักค่ะ

    ตอบลบ
  3. งง. งง. งงเป็นไก่ตาแตก. จนป่านนี้ยังไม่หายงง

    ตอบลบ
  4. ทำไมไม่ทำให้โปร่งใสค่ะ

    ตอบลบ
  5. อยากให้โปร่งใสมากๆเลยค่ะ

    ตอบลบ
  6. ควรทำให้ชัดเจนไม่ลำเอียงคะ

    ตอบลบ
  7. ขอให้หลวงพ่อผ่านพ้นภัยพาลค่ะ

    ตอบลบ
  8. ความจริง..ที่คนจริงควารู้.

    ตอบลบ
  9. ความจริง..ที่คนจริงควารู้.

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.