บุกวัด-จับพระ-ปิด DMC ยุทธ์ศาสตร์ล้มธรรมกาย

ณ เวลานี้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การกระทำต่างๆ ของวัดพระธรรมกาย การมีพื้นที่สื่อของวัดพระธรรมกายต้องถือว่าถูกปิดล้อมอย่างเข้มงวด แม้กระทั่งการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ DMC ของวัดพระธรรมกายซึ่งเป็นกิจกรรมด้านพระพุทธศาสนาโดยแท้ เป็นกิจกรรมด้านการชวนคนนั่งสมาธิ ชวนคนนั่งภาวนา ชวนคนนั่งปฏิบัติธรรม ซึ่งคนจำนวนมากในประเทศนี้ โดยเฉพาะที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นญาติธรรมที่เป็นคนซึ่งนับถือวัดพระธรรมกายปฏิบัติธรรมมาเป็นเวลาหลายปี ก็ถูกแบนไปแล้ว ทั้งๆ ที่โดยเนื้อหาสาระในเรื่องของวัดพระธรรมกายตรงส่วนนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่เป็นภัยต่อความมั่นคง

แต่ ณ วันนี้ แม้กระทั้งกิจกรรมทางด้านพระพุทธศาสนาก็ถูกวินิจฉัยจากเจ้าหน้าที่รัฐว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงและสั่งยุติการออกอากาศไปเรียบร้อย

นั่นคือ สัญญาณที่น่าวิตกกังกล อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายกำลังจะถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงไปซะหมด เฉกเช่นเดียวกับการปิดสถานีโทรทัศน์ DMC ของวัดพระธรรมกาย โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือเปล่า

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงนั้นคือสัญญาณที่อันตรายที่เสียงต่อการจะเห็นการเผชิญหน้ากับหน้าที่รัฐกับญาติโยม กับผู้ปฏิบัติธรรม กับผู้ศรัทธาหลวงพ่อธัมมชโย ซึ่งหลายส่วนปะปนในวัดพระธรรมกายเต็มไปหมด นี่เป็นเรื่องที่รัฐต้องบริหารจัดการด้วยความระมัดระวัง

***เพราะที่ผ่านมามีหลายกลุ่ม พยายามใช้เรื่องวัดพระธรรมกาย ใช้คดีพระธัมมชโยเป็นชนวน เป็นข้ออ้างในการยุติบทบาทของวัดพระธรรมกาย

2-3 วัน ที่ผ่านมามีบุคคลที่ออกมาผลักดันเรื่องคดีหลวงพ่อธัมมชโย และพยายามให้คดีจบแบบนำไปสู่การปิดฉากวัดพระธรรมกายในที่สุด คือ คุณไพบูลย์นิติตะวัน คนซึ่งสำคัญในแม่น้ำ 5 สาย บุคคลซึ่งถือว่าเป็นภาคพลเรือน ซึ่งมีภาพลักษณ์ทางสังคม ว่าผู้ใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจ ต้องการอะไรก็มักจะได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นก่อนจะยึดอำนาจโดย คสช. ไม่ว่าจะเป็นในช่วงประชุม กปปส. ไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาที่คุณไพบูลย์อยู่ในกลุ่ม 40 สว.สิ่งที่คุณไพบูลย์เสนอ ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ เป็นตัวแทนเป็นการสื่อสารของฝั่งผู้มีอำนาจอยู่ในรัฐบาล หรือห้อมล้อมรัฐาลในปัจจุบัน

2-3 วันที่ผ่านมา คุณไพบูลย์บอกว่า

คดีพระธัมมชโยต้องจบ และต้องจบต้องแบบนำไปสู่อวสานของวัดพระธรรมกาย

***นี่คือสัญญาณที่อาจจะทำให้คนในสังคมมีคำถามแบบที่มีการตั้งคำถามมาเป็นเวลานาน ว่าถึงที่สุดแล้วคดีวัดพระธรรมกาย คดีของพระธัมมชโยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามยุติบทบาทของวัดพระธรรมกายหรือเปล่า

การไม่แยกแยะระหว่างวัดพระธรรมกายกับหลวงพ่อธัมมชโย อาจจะเป็นชนวนทำให้เรื่องนี้จบแบบไม่ง่าย และอาจไม่ใช่จบอย่างที่เจ้าหน้าที่รัฐได้อย่างต้องการทั้งหมด เพราะว่าเรื่องของวัด เรื่องพระ เรื่องของหลวงพ่อ เรื่องของญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา 3-4 เรื่องนี้ เนื้อหาสาระเป็นเรื่องที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน

แน่นอนด้วยความชุนมุนของสถานการณ์ การเผชิญหน้า ความวุ่นวาย มันทำให้เหมือนกับทุกอย่างเป็นเรื่องเดียวกัน ญาติโยมผู้ศรัทธาอยู่ในวัด ลูกศิษย์หลวงพ่ออยู่ในวัด ผู้ที่ปฏิบัติธรรม ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เชื่อถือในแนวของวัดพระธรรมกายอยู่ในวัด จะแยกแยะคนเหล่านี้ออกจากกันอย่างไร

แล้วถ้าไม่สามารถแยกแยะได้ ซึ่งที่เกิดขึ้นคือการบริหารคดีหลวงพ่อธัมมชโย อาจจะกลายเป็นเครื่องมือให้คนบางกลุ่มล้มวัดพระธรรมกาย

***ถ้าเป็นแบบนั้นอำนาจรัฐกำลังก้าวร่วงไปสู่ความเชื่อส่วนบุคคล ก้าวร่วงไปสู่การคุกคามเสรีภาพ ในการปฏิบัติธรรม ในการนับถือศาสนา ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิด คุณจะชอบวัดพระธรรมกาย คุณจะชอบสวนโมก คุณจะชอบวัดยานาเวศ ชอบแบบไหนก็ตามเป็นเรื่องเสรีภาพทางความเชื่อ เป็นเรื่องมุมมองศาสนาที่แตกต่างกัน

แต่คดีพระธัมมชโยกำลังทำให้เกิดสัญญาณว่า ต่อให้คุณเป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ต่อให้คุณเป็นผู้ปฏิบัติธรรม ต่อให้คุณเป็นผู้หญิงอายุ 70, 80 ซึ่งนุ่งขาวห่มขาวปฏิบัติภาวนาตามแนวทางวัดพระธรรมกาย

ณ เวลานี้ คุณกำลังถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือเปล่า นี่คือสัญญาณอันตรายที่อาจจะทำให้รัฐบาล กับประชาชนจำนวนมากเผชิญหน้ากันอย่างไม่มีความจำเป็น

Cr. ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ รายการ Overview