กระบวนการยุติธรรมสมัยพุทธกาล: คดีที่พระพุทธเจ้าถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร (ตอนที่ 3-4)
กระบวนการยุติธรรมสมัยพุทธกาล:
คดีที่พระพุทธเจ้าถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร
ตอนที่ 3
"ฆาตกรตัวจริง"
ในช่วงเวลาที่ต้องกลายมาเป็นคนผิดด้วยข้อหาที่ตนไม่ได้ก่อขึ้นนั้น เหล่าพระภิกษุก็ได้มากราบทูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระองค์ได้ตรัสให้ภิกษุโจทตอบกลับไปยังผู้ที่ด่าว่ากลับไปเป็นนัยยะให้ผู้มีปัญญาได้ไตร่ตรองว่า
เรื่องราวดำเนินต่อไปเช่นนี้....
ผู้กล่าวคำเท็จ (กล่าวใส่ร้ายผู้อื่น ด้วยเรื่องเท็จ) ย่อมตกนรก แม้ใครที่ทำ (ความผิด) แต่กล่าวว่า ไม่ได้ทำ มนุษย์ทั้งสองพวกนั้น ผู้มีกรรมอันทราม ละโลกไป จะได้เป็นอยู่เสมอกัน (ตกนรกเหมือนกัน)(เป็นที่น่าสังเกตว่า พระพุทธเจ้าตรัสให้พระสาวกโจทกลับผู้ที่มาต่อว่า ไม่เหมือนกับครั้งที่พระองค์ถูกพวกทาสกรรมกรรุมด่าเวลาที่พระองค์ไปบิณฑบาตรตลอด 7 วัน ซึ่งในครั้งนั้น พระองค์ไม่ได้ตอบโต้อะไรเลย ทั้งยังไม่ได้ให้พระสาวกตอบโต้กลับด้วย เป็นกรณีที่น่าศึกษาด้วยเช่นกัน)
เรื่องราวดำเนินต่อไปเช่นนี้....
จนในที่สุด....
ราชบุรุษทีมสืบสวนก็ได้พบเบาะแสของคดีที่ทำให้สาวถึงตัวผู้กระทำความผิดได้ในที่สุด
โดยได้แอบฟังคำพูดของพวกนักเลงที่กำลังเมาเหล้า ด่าว่ากันและกันว่าเป็นผู้ฆ่านางสุนทรี แล้วนำเงินค่าจ้างที่ได้จากการฆ่านางสุนทรีมากินเหล้ากัน
ทีมสืบสวนจึงได้จับตัวนักเลงเหล่านั้นมาแสดงให้แก่พระราชา พระราชาได้ทรงสอบสวนพวกนักเลงเหล่านั้น ถึงสาเหตุที่ลงมือฆ่านางสุนทรี ซึ่งพวกนักเลงก็ได้รับสารภาพว่าตนเป็นผู้ฆ่านางสุนทรีจริง
ขณะนี้ทีมสืบสวนของพระราชาสามารถจับตัวผู้กระทำความผิดได้แล้ว แต่ผลการสืบสวนบ่งบอกว่า ยังมีเบาะแสให้สืบสวนเพิ่มเติมอีก...
ค่าจ้างที่พวกนักเลงได้มาซื้อเหล้ากินนั้น ได้มาจากใครกัน? ใครเป็นผู้จ้างวานนักเลงเหล่านั้นให้มาฆ่านางสุนทรี...
ขณะนี้ทีมสืบสวนของพระราชาสามารถจับตัวผู้กระทำความผิดได้แล้ว แต่ผลการสืบสวนบ่งบอกว่า ยังมีเบาะแสให้สืบสวนเพิ่มเติมอีก...
ค่าจ้างที่พวกนักเลงได้มาซื้อเหล้ากินนั้น ได้มาจากใครกัน? ใครเป็นผู้จ้างวานนักเลงเหล่านั้นให้มาฆ่านางสุนทรี...
ตอนที่4
"ผู้จ้างวาน"
พระราชาสามารถจับตัวผู้ฆ่านางสุนทรีได้สำเร็จ แต่แล้วก็ต้องค้นพบความจริงที่น่าตกใจขึ้นไปอีก จากคำสารภาพของพวกนักเลง หรือพูดให้ถูกคือกลุ่มฆาตกรเหล่านั้น
กลุ่มฆาตกรได้สารภาพ โดยแฉไปถึงผู้จ้างวานว่า...
พวกตนได้ฆ่านางสุนทรีเพราะรับค่าจ้างจากพวกเดียรถีร์นั่นเอง!!!
พระราชาเมื่อได้สดับดังนั้น ก็ยังไม่ผลีผลามตัดสินคดี แต่พระองค์ได้สั่งให้นำตัวพวกเดียรถีร์มาสอบปากคำ เมื่อสืบสวนเสร็จเรียบร้อย จึงได้คำสารภาพจากเดียรถีร์ว่า ที่สั่งฆ่านางสุนทรีเพราะ...
พระราชาเมื่อได้สดับดังนั้น ก็ยังไม่ผลีผลามตัดสินคดี แต่พระองค์ได้สั่งให้นำตัวพวกเดียรถีร์มาสอบปากคำ เมื่อสืบสวนเสร็จเรียบร้อย จึงได้คำสารภาพจากเดียรถีร์ว่า ที่สั่งฆ่านางสุนทรีเพราะ...
ต้องการจะใส่ร้ายพระพุทธเจ้า เพราะนับตั้งแต่พระพุทธเจ้าได้บังเกิดขึ้น พวกตนก็เสื่อมถอยจากลาภสักการะที่เคยมีมา จึงได้ทำเช่นนี้ เพื่อต้องการจะทำลายพระพุทธเจ้า และพระสาวกลงในคราวเดียว
เหตุการณ์กลับพลิกผันในทันใด
ผลสรุปกลายว่า....
เดียรถีย์ผู้ทำตัวเป็นเจ้าทุกข์มาร้องเรียนกลับเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมสมาชิกของตนเสียเอง จึงได้วางแผนมาตั้งแต่ต้น
โดยส่งนางสุนทรีให้แอบไปพระเชตวันเวลาวิกาล แล้วปล่อยข่าวฉาวว่า ตนหลับนอนกับพระพุทธเจ้า ต่อจากนั้นก็จ้างนักเลงให้มาฆ่านางสุนทรี แล้วหมกศพไว้ที่กองขยะดอกไม้ใกล้พระคันธกุฎี แล้วจึงได้สวมบทเป็นเจ้าทุกข์ไปร้องเรียนกับพระราชาดังกล่าวมาแล้วข้างต้น
เมื่อได้ตัวผู้กระทำความผิดตัวจริงแล้ว
คดีเป็นอันสอบสวนเสร็จเรียบร้อยโดยสมบูรณ์ ไม่มีเงื่อนงำใดๆที่น่าสงสัยอีกต่อไป
เมื่อได้ตัวผู้กระทำความผิดตัวจริงแล้ว
พระราชาจะทรงดำเนินการเช่นไรต่อไป
to be continue…
Cr. ปธ.ก้าวไปข้างหน้า
กระบวนการยุติธรรมสมัยพุทธกาล: คดีที่พระพุทธเจ้าถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร (ตอนที่ 3-4)
Reviewed by bombom55
on
01:06
Rating:
น่าติดตามยิ่งนัก
ตอบลบแม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ยังถูกใส่ร้ายป้ายสี แสดงว่าคนพาลสมัยไหนก็ไม่แตกต่างกัน
ตอบลบคนพาลในพระพุทธศาสนาหรือศาสนาใดก็ไม่ต่างกัน
ตอบลบคนพาลในพระพุทธศาสนาหรือศาสนาใดก็ไม่ต่างกัน
ตอบลบ