แถลงการณ์วัดพระธรรมกาย ท่าทีต่อกรณี DSI ส่งสำนวนแก่ อัยการ
แถลงการณ์วัดพระธรรมกาย
ท่าทีต่อกรณี DSI ส่งสำนวนแก่ อัยการ
กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งสำนวนคดีพิเศษที่ 27/2559
เกี่ยวกับพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) ไปยังอัยการ
เมื่อวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2559 นั้น
วัดพระธรรมกายขอเรียนชี้แจงดังนี้
1. เนื้อหาในคดีดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษได้สอบสวนแล้วในคดีพิเศษที่
146/2556 และเสนอสำนวนการสอบสวนต่อพนักงานอัยการแล้ว
พนักงานสอบสวนคดีพิเศษไม่อาจที่จะแยกเรื่องออกมาเป็นคดีใหม่ที่
27/2559
ทั้งนี้เทียบเคียงตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9/2481 และเรื่องเสร็จที่ 766/2546
บันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การกระทำดังกล่าวของกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงอาจเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
2. การที่พนักงานสอบสวนได้นำหมายเรียกพระเทพญาณมหามุนีมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนแล้วเผยแพร่ไปยังประชาชนโดยทั่วไป
ก่อนที่จะนำหมายเรียกดังกล่าวมาส่งให้แก่พระเทพญาณมหามุนี เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยจรรยาบรรณของพนักงานสอบสวน
แสดงให้เห็นว่าพนักงานสอบสวนอาจมีอคติต่อพระเทพญาณมหามุนีและวัดพระธรรมกาย
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ปกรณ์
สุชีวกุล ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ให้นายมโน เลาหวณิช
ซึ่งเป็นผู้กล่าวหาและมีความขัดแย้งกับพระเทพญาณมหามุนี
เข้าร่วมประชุมกับคณะพนักงานสอบสวน ชี้นำวิธีการจัดการกับพระเทพญาณมหามุนี การกระทำดังกล่าวทำให้ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายขาดความไว้วางใจในการทำงานของพนักงานสอบสวนชุดนี้
3. กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีคำสั่งที่
531/2559 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2559 ขอความร่วมมือจากพระเดชพระคุณพระเทพรัตนสุธี
เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และดร.สมศักดิ์ โตรักษา ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี
ร่วมเป็นคณะกรรมการประสานงานในคดีดังกล่าว มีอำนาจหน้าที่กำหนดแนวทาง มาตรการ และวิธีประสานงาน
รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
4. คณะกรรมการชุดนี้ได้ประชุมที่วัดเขียนเขต
จังหวัดปทุมธานี ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2559 และครั้งที่ 2
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2559 โดยดร.สมศักดิ์
โตรักษา ได้ประสานงานกับทางวัดพระธรรมกายมาโดยตลอด และการเจรจามีความคืบหน้าด้วยดีโดยลำดับ
เหลือเพียงประเด็นการเปลี่ยนหัวหน้าพนักงานสอบสวน
ซึ่งมีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยจรรยาบรรณของพนักงานสอบสวนดังกล่าวแล้วข้างต้น
ซึ่งผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษได้แนะนำให้ทำหนังสือขอความเป็นธรรมและขอเปลี่ยนตัวหัวหน้าพนักงานสอบสวนไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ซึ่งทางทนายความผู้รับมอบอำนาจของพระเทพญาณมหามุนีก็ได้ดำเนินการตามคำแนะนำเรียบร้อย
และมีการนัดประชุมของคณะกรรมการครั้งที่ 3 ในวันอังคารที่ 14 มิถุนายน 2559
5.
แต่แล้วในวันจันทร์ที่
13 มิถุนายน 2559 ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษกลับสั่งฟ้องและส่งสำนวนคดีดังกล่าวไปยังอัยการ
โดยไม่รอการประชุมในวันที่ 14 มิถุนายน
ทำไมกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงรีบร้อนรวบรัดกระบวนการผิดปกติ ทั้งการออกหมายจับและการสั่งฟ้องคดีนี้
ทำไมกรมสอบสวนคดีพิเศษไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการประชุมแม้แต่ข้อเดียว
6.
วัดพระธรรมกายรู้สึกเสียใจและขาดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ไม่รักษาข้อตกลง ไม่ให้เกียรติสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและการคณะสงฆ์
มีพฤติกรรมที่น่าสงสัยว่าอาจมีเล่ห์กลอุบาย
7. พระเทพญาณมหามุนีได้รับบริจาคโดยเปิดเผยและสุจริต
ทรัพย์ทั้งหมดได้ใช้ไปเพื่อสร้างศาสนสถานตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาค
ไม่ได้นำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตนแม้แต่บาทเดียว มีหลักฐานเส้นทางการเงินที่ชัดเจน เพราะไม่เคยถอนเป็นเงินสดออกมาเลย ซึ่งสำนักงานปปง.ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดโดยชัดเจนและส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว
ยิ่งกว่านั้นเมื่อเกิดเป็นคดีความขึ้น
มีข้อสงสัยถึงที่มาของทรัพย์ที่ได้รับบริจาค คณะศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกายยังได้ตั้งกองทุนเยียวยาแก่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นจนครบจำนวน
และสหกรณ์ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่แท้จริงได้มีหนังสือขอบคุณและแสดงเจตนารมณ์ ไม่ติดใจเอาความทั้งทางแพ่งและอาญา
ทำไมกรมสอบสวนคดีพิเศษกลับมุ่งมั่นดำเนินคดีในประเด็นที่ไม่เกิดประโยชน์ใดๆกับสมาชิกสหกรณ์
8.
การดำเนินคดีนี้กับพระเทพญาณมหามุนี จะสร้างผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาอย่างใหญ่หลวง ต่อไปการรับบริจาคของวัดและองค์กรสาธารณะอื่นๆ
ก็อาจถูกดำเนินคดีว่าเป็นการรับของโจรและฟอกเงินได้เช่นเดียวกัน
วัดพระธรรมกายยืนยันเคารพกระบวนการยุติธรรม และจะขอความเป็นธรรมจากพนักงานอัยการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
พระสนิทวงศ์
วุฑฺฒิวํโส
ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร
วัดพระธรรมกาย
14 มิถุนายน 2559
แถลงการณ์วัดพระธรรมกาย ท่าทีต่อกรณี DSI ส่งสำนวนแก่ อัยการ
Reviewed by bombom55
on
21:19
Rating:
ยอดเยี่ยมมาก
ตอบลบdsiมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฏหมาย ทำไมเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ทำตามขั้นตอนของกฏหมาย มีอะไรไม่โปร่งใสซ่อนเงื่อนไหมชาวโลกสงสัยdsiนะเพราะเขาติดตามอยู่
ตอบลบ2 มาตรฐานนะ. พระรูปหนึ่งทำอะไรก็ผิดหมดทุกเรื่อง หาเรื่องจับตลอด. พระอีกรูปหนึ่ง. ทำเลวอย่างไรก็ถูกทุกเรื่อง. นี่หรือประเทศไทย
ตอบลบถูกต้องค่ะDSIปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ตอบลบถ้าหน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวกับความยุติธรรมยังไม่สามารถทำให้ประชาชนไว้ใจ ต่อไปในภายภาคหน้าเราจะไว้ใจและเชื่อใจใครได้ เพราะกลไกทั้งหมดอยู่ในอำนาจของรัฐ
ตอบลบไม่ไว้ใจ DSI เลย
ตอบลบแต่ละคดีที่ทำมา. มันแปลกจริงนะ
เช่นรถหรูที่จอดแน่นิ่งในพิพิธภัณฑ์ ทำให้ประเทศไทยว่างเว้นประมุขสงฆ์มากว่า 6 เดือน !!!
เรารู้สึกไม่เชื่อมั่นต่อพนักงานdsi
ตอบลบ