วิเคราะห์ ม.44 แก้ปัญหาการบิดเบือนศาสนา สร้างความขัดแย้งจริงหรือ?
วิเคราะห์คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 49/2559 เรื่อง มาตรการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่างๆ ในประเทศไทย
ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีดังกล่าวในเรื่องนี้ถ้ามองดูเพียงผิวเผินก็ดูจะเป็นเรื่องที่ดีที่ฝ่ายรัฐจะเข้ามาช่วยให้กิจการภายในระหว่างศาสนาทุกศาสนามีความสัมพันธ์ในทางที่ดีขึ้น
ในอีกแง่มุมหนึ่งระยะเวลากว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาคณะกรรมการปฏิรูปแนวทาง และมาตรการพิทักษ์ปกป้องพระพุทธศาสนา พยายามผลักดันแนวทางปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนามาโดยตลอดนั้น
สำหรับในศาสนาอื่นนั้นคงไม่มีผลกระทบใดๆ เพราะรัฐไม่สามารถเข้าไปยุ่มย่ามภายในกิจการของเขาได้เหมือนในพระพุทธศาสนา
แต่ถ้าจะมองในเจตนาที่เป็นกุศลของฝ่ายรัฐ ทำไมศาสนาอื่นๆ (ที่พวกเราในฐานะนักบวชต่างศาสนากลับไม่มีความรู้สึกว่าขณะนี้มีปัญหาอะไรมากมายด้านศาสนา ถึงขนาดจะต้องออกคำสั่งในอำนาจพิเศษมากมายเพียงนี้)
มาตรา44 นี้ จะมาสร้างความปรองดอง หรือยิ่งทำให้เกิดคำถาม หรือความขัดแย้งมากขึ้น ????
ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีดังกล่าวในเรื่องนี้ถ้ามองดูเพียงผิวเผินก็ดูจะเป็นเรื่องที่ดีที่ฝ่ายรัฐจะเข้ามาช่วยให้กิจการภายในระหว่างศาสนาทุกศาสนามีความสัมพันธ์ในทางที่ดีขึ้น
ในอีกแง่มุมหนึ่งระยะเวลากว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาคณะกรรมการปฏิรูปแนวทาง และมาตรการพิทักษ์ปกป้องพระพุทธศาสนา พยายามผลักดันแนวทางปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนามาโดยตลอดนั้น
บัดนี้แนวทางทั้งหมดดังกล่าวทั้ง 4 ด้านนั้น ถูกผลักดันให้เขียนลงไปในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับที่ผ่าน ประชามติเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา
ซึ่งปรากฎในมาตราที่ 67 เป็นการย่อยการปฏิรูปทั้ง 4 ด้านของคณะกรรมการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาทั้งหมดลงไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างกระชับที่สุด และถือว่าเป็นความสำเร็จของคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและพิทักษ์พระพุทธศาสนา
ส่วนในข้อที่ 4 ในข้อเสนอแนะของคณะกรรมการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาในเรื่องของฝ่ายอาณาจักรต้องเข้ามาช่วยฝ่ายศาสนจักรนั้น มาปรากฎชัดเป็นรูปธรรม จับต้องสัมผัสได้ก็คือการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีตามมาตราที่ 44 ในครั้งนี้
ต้องถามตรงๆ???
ส่วนในข้อที่ 4 ในข้อเสนอแนะของคณะกรรมการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาในเรื่องของฝ่ายอาณาจักรต้องเข้ามาช่วยฝ่ายศาสนจักรนั้น มาปรากฎชัดเป็นรูปธรรม จับต้องสัมผัสได้ก็คือการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีตามมาตราที่ 44 ในครั้งนี้
ต้องถามตรงๆ???
ว่า....จะเข้ามาช่วยในการอุปถัมภ์คุ้มครอง
หรือ....การทำความเข้าใจระหว่างศาสนา
หรือว่า....เจตนาของรัฐตรงกับเจตนาของคณะกรรมการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาในการเข้ามาควบคุมกิจการภายในของศาสนา!!!
โดยเฉพาะคณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนา เช่น การให้ประชาชนมีส่วนร่วม การมีมาตรการป้องกันและแก้ใข ทั้งหลายทั้งปวงนี้ดูจะสอดรับกันโดยบังเอิญเหลือเกิน รวมทั้งการให้องค์กรพุทธ โดยเฉพาะศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ต้องรายงานกิจกรรม ประวัติและความเป็นมาเพื่อส่งให้หน่วยงานของรัฐโดยด่วน
ทั้งหลายทั้งปวงจะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จ และความพยายามของคณะกรรมการปฏิรูปกิจการและมาตรการพิทักษ์ปกป้องพระพุทธศาสนา
ทั้งหลายทั้งปวงจะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จ และความพยายามของคณะกรรมการปฏิรูปกิจการและมาตรการพิทักษ์ปกป้องพระพุทธศาสนา
ในการยืมมืออำนาจรัฐเข้ามาจัดการกิจการภายในของศาสนาโดยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่คณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนาหรือไม่น่าสนใจยิ่ง!!!
สำหรับในศาสนาอื่นนั้นคงไม่มีผลกระทบใดๆ เพราะรัฐไม่สามารถเข้าไปยุ่มย่ามภายในกิจการของเขาได้เหมือนในพระพุทธศาสนา
แต่ถ้าจะมองในเจตนาที่เป็นกุศลของฝ่ายรัฐ ทำไมศาสนาอื่นๆ (ที่พวกเราในฐานะนักบวชต่างศาสนากลับไม่มีความรู้สึกว่าขณะนี้มีปัญหาอะไรมากมายด้านศาสนา ถึงขนาดจะต้องออกคำสั่งในอำนาจพิเศษมากมายเพียงนี้)
เมื่อมีการเรียกร้องใดๆ จากเพื่อนร่วมกันในอีก 4 ศาสนา ภาครัฐจะต้องสนองตอบในทันทีทันใดขนาดนั้นเชียวหรือ เพราะขณะนี้สังคมก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าใครเป็นผู้ร้อง ร้องเรื่องอะไร สาระสำคัญปรากฏจริงตามคำร้องหรือไม่
***แต่ที่แน่นอนที่สุดที่ปรากฎเห็นอย่างแจ่มชัดคือ มีเหตุอะไรที่เร่งด่วนด้านศาสนา จึงต้องสั่งการให้รายงานผลในทุก 3 เดือน
***แต่ที่แน่นอนที่สุดที่ปรากฎเห็นอย่างแจ่มชัดคือ มีเหตุอะไรที่เร่งด่วนด้านศาสนา จึงต้องสั่งการให้รายงานผลในทุก 3 เดือน
อะไรจะเป็นเหตุเป็นผลให้ต้องเข้มข้นถึงขนาดนั้น อะไรคือสาเหตุที่แท้จริงช่วยตอบคำตอบให้กระจ่างที และขอถามต่อไปอีกว่าขณะนี้ภาครัฐมีความสงสัยหรือหวาดระแวงอะไรเป็นพิเศษในกลุ่มพี่น้องชาวพุทธหรือไม่??
เพราะเวลานี้มีการสั่งการถึงขนาดว่าต้องให้องค์กรของชาวพุทธในบางองค์กรต้องรายงานอะไรต่อมิอะไรภายในองค์กรให้หน่วยงานของรัฐทราบโดยด่วน
ในเวลานี้ถ้าจะมองในอีกแง่มุมหนึ่งว่า รัฐพยายามสนองตอบในการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาในทางที่ดีขึ้น ให้ความเป็นธรรมในทุกศาสนานั้น แล้วเหตุการณ์ที่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาได้ลุกขึ้นมาเรียกร้องในหลายๆ เรื่อง หลายกรณีพร้อมกันทั่วประเทศนั้นจะตอบคำถามเหล่านี้ว่าอย่างไร
ในเวลานี้ถ้าจะมองในอีกแง่มุมหนึ่งว่า รัฐพยายามสนองตอบในการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาในทางที่ดีขึ้น ให้ความเป็นธรรมในทุกศาสนานั้น แล้วเหตุการณ์ที่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาได้ลุกขึ้นมาเรียกร้องในหลายๆ เรื่อง หลายกรณีพร้อมกันทั่วประเทศนั้นจะตอบคำถามเหล่านี้ว่าอย่างไร
**เช่น ขอให้ออกกฎหมายนมัสการสังเวชนียสถาน 4 แห่ง กฎหมายธนาคารพระพุทธศาสนา กฎหมายอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา เป็นต้น
***หรือแม้แต่การเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะเพื่อเสนอโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องสำคัญ
ก็ไม่เห็นมีท่าทีที่จะอ่อนน้อม ห่วงใย เอาใจใส่จากภาครัฐเหมือนในกรณีที่เร่งออกคำสั่งพิเศษนี้เลย ไม่เห็นเลยจริงๆ นอกจากท่าทีที่แข็งกร้าว ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไร้ความเคารพยำเกรง อนิจจา
กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา เราชาวพุทธต้องอดทน เข้มแข็งและสามัคคีกันไว้เพื่ออนาคตของพระพุทธศาสนาบนผืนแผ่นดินไทย พวกเราต้องช่วยกันรักษาพระศาสนาไว้เพื่อเป็นสมบัติสืบทอดไปสู่ลูกหลานรุ่นต่อๆ ไปของพวกเราตราบนานเท่านาน
ที่มา. เพจพระเมธีธรรมาจารย์
#เจ้าคุณประสาร
23 สิงหาคม 2559
กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา เราชาวพุทธต้องอดทน เข้มแข็งและสามัคคีกันไว้เพื่ออนาคตของพระพุทธศาสนาบนผืนแผ่นดินไทย พวกเราต้องช่วยกันรักษาพระศาสนาไว้เพื่อเป็นสมบัติสืบทอดไปสู่ลูกหลานรุ่นต่อๆ ไปของพวกเราตราบนานเท่านาน
ที่มา. เพจพระเมธีธรรมาจารย์
#เจ้าคุณประสาร
23 สิงหาคม 2559
4 ข้อ ที่ประกาศมาเป็น 4 ข้อที่ทุกรัฐบาลก็ปฏิบัติมาโดยตลอดอยู่แล้ว ใช้ ม.44 มีอะไรพิเศษงั้นเหรอ???
การแก้ปัญหาเรื่องศาสนาที่ควรทำมี 2 ข้อ คือ
1. ต้องทำให้เป็นรัฐฆราวาส คือแยกรัฐ กับศาสนาออกอย่างชัดเจน
รัฐต้องไม่ก้าวก่ายทุกศาสนาอย่างเท่าเทียมกัน มีมาตรฐานเดียว เคารพความเป็นรัฐฆราวาสอยู่เหนือสิ่งอื่นใด
2. ไม่แยก รัฐเป็นผู้สนับสนุน ต้องสนับสนุนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มี 2 มาตรฐาน
ถึงกับต้องใช้ ม.44 มาดูแลศาสนา
แค่เริ่มต้นก็หาว่ามีคนขยายความบิดเบือนให้เกิดความขัดแย้ง ไม่ยอมรับว่ามันเกิดจากร่างรัฐธรรมนูญ พูดแบบนี้ยิ่งไปกันใหญ่
วิเคราะห์ ม.44 แก้ปัญหาการบิดเบือนศาสนา สร้างความขัดแย้งจริงหรือ?
Reviewed by bombom55
on
02:56
Rating:
พระพุทธศาสนา ให้พระสงฆ์ดูแลกันเองดีไหม
ตอบลบเราเชื่อว่าพระท่านดูแลกันมานาน ผู้นำยุคนี้ยังไว้ใจไม่ได้นะคะ
ตอบลบคณะสงฆ์ท่านปกครองและดูแลกันเองมา
ตอบลบหลายสมัยแล้วอยู่ด้วยกันอย่างเป็นสุข
ฆราวาสอย่ามาปกครองสงฆ์เลยค่ะ
เรื่องของสงฆ์ ให้สงฆ์ท่าน เป็นผู้ดูแลเถอะค่ะ
ตอบลบพวกฆารวาสถือศีล5ไม่ครบเล่านี้หรือ ที่จะมาตัดสินว่าอะไรบิดเบือนศาสนา เห็นแล้วนะเศร้าใจ
ตอบลบพระสงฆ์ท่านดูแลและจัดการกันเองไม่ต้องทำเป็นมาหวังดีเลย มีแผนอย่างหรือปล่าวครับ
ตอบลบศาสนาพุทธมีปัญหาจริงหรือ คนสร้างกระแสให้เป็นปัญหากันแน่ เอาอะไรมาเป็นมาตรฐานว่าบิดเบือน คนที่ตัดสินเป็นคนมีศีลเป็นผู้มีใจไม่ลำเอียงเข้าใจศาสนาพุทธมากแค่ไหน ???
ตอบลบศาสนาพุทธมีปัญหาจริงหรือ คนสร้างกระแสให้เป็นปัญหากันแน่ เอาอะไรมาเป็นมาตรฐานว่าบิดเบือน คนที่ตัดสินเป็นคนมีศีลเป็นผู้มีใจไม่ลำเอียงเข้าใจศาสนาพุทธมากแค่ไหน ???
ตอบลบ*สายเกินไปเสียแล้ว*บาปอกุศลทุกอย่างนั้น ไม่ใช่ว่า พอทำไปแล้ว จะส่งผลทันทีให้เห็นด้วยตาเนื้อ ถึงแม้ยังมองไม่เห็นผลของกรรมที่จะเกิดขึ้น สิ่งหนึ่งที่รับรู้ได้คือ เราจะไม่ค่อยสบายใจ เพราะกรรมดีทุกอย่างที่เราทำ จะมีความสุขความสบายใจเป็นผล ส่วนกรรมชั่วที่ทำด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ
ตอบลบ-ก็มีความทุกข์ทรมานเป็นผลกรรมตอบแทน เมื่อถึงเวลานั้นได้แต่บอกว่า สายเกินไปเสียแล้ว จะกลับมาเริ่มต้นใหม่ เพื่อสั่งสมบุญให้กับตนเองอีกครั้ง ก็ต้องใช้เวลาอีกยาวนาน เพราะบาปกรรมที่เราทำลงไปนั้น แม้จะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม จะส่งผลเป็นวิบากที่ยาวนานเกินกว่า ที่เราคาดคิดเอาไว้เสียอีก
ยุคถิ่นกาขาว โมฆบุรุษทุศีลเรืองอำนาจ
ตอบลบยุคถิ่นกาขาว โมฆบุรุษทุศีลเรืองอำนาจ
ตอบลบไม่ต้องมามีบุญคุณที่อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา กรรมเป็นเครื่องส่อเจตนามาตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะมาควบคุมจัดการวัดไว้ในกำมือฆราวาสที่ศีลห้าก็ยังรักษาไม่ได้
ตอบลบแค่ไม่ต้องยื่นจมูกมาวุ่นวาย จับผิด หาเรื่อง. พระให้เดือดร้อน เท่านี้ก็ดีถมไปแล้ว
รัฐกับศาสนาต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนคนเป็นย่อมแยกเอาจิตวิญญาณออกไปไม่ได้ ต้องคู่กันเสมอ หากคนไม่มีวิญญาณครองแล้วก็เรียกว่า คนตาย แม้รัฐหรือบุคคลไม่มีศาสนาไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจแล้วก็ต้องมีคำสอนของบรรพบุรุษหรือพ่อแม่เป็นแนวดำเนินชีวิตเป็นอย่างน้อย เพราะรัฐคือสังคมของคน
ตอบลบเรื่องศาสนาน่าจะเป็นหน้าที่ของสงฆ์นะคะ
ตอบลบฆราวาสก็ปกครองโดยฆราวาส
สงฆ์ก็น่าจะปกครองโดยสงฆ์โดยพระธรรมวินียนะคะ
เรื่องศาสนาน่าจะเป็นหน้าที่ของสงฆ์นะคะ
ตอบลบฆราวาสก็ปกครองโดยฆราวาส
สงฆ์ก็น่าจะปกครองโดยสงฆ์โดยพระธรรมวินียนะคะ
ธรรมสอนสั่งหยั้งใจให้เป็นสุข
ตอบลบธรรมช่วยทุกข์หมดไปใจสุขศานติ์
ธรรมรักษาจิตใจให้เบิกบาน
ธรรมบันดาลให้สุขตลอดไป
ชัยชนะพระธรรมนำดวงจิต
ชัยชนะพิชิตจิตผ่องใส
ชัยชนะหมู่มารทุกชาติไป
ชัยชนะให้พระชนะมาร...
ทานโทษนะครับ ก่อยจะบอกว่าบิดเบือนพระศาสนา
ตอบลบไปอ่านคัมภีร์ พระไตรปิฎกอะไรให้มันดีก่อนนะ ท่าน
ทำอะไรก็ปรึกษาพระบ้าง ไม่ใช่พระแต่อยากอุปถัมภ์ ถ้าไม่ถามก่อน จะคืนความสุขได้ถูกต้องได้อย่างไร
ตอบลบทำอะไรก็ปรึกษาพระบ้าง ไม่ใช่พระแต่อยากอุปถัมภ์ ถ้าไม่ถามก่อน จะคืนความสุขได้ถูกต้องได้อย่างไร
ตอบลบ#การใช้ม.44..เพื่อเอื้อให้บางศาสนาผลาญงบประมาณไปต่างประเทศหรือเปล่า..?
ตอบลบ#.หรือให้นายไพบูลย์.ยืมมืออำนาจรัฐไปจัดการกับพุทธใช่หรือไม่.?
#..ต้องการจัดให้คนทุศีลมาปกครองสงฆ์ใช่หรือไม่..?
ธรรมะย่อมชนะอธรรม
ตอบลบสถาบันศาสนา เป็นสถาบันที่ปุถุชนอย่างเราต้องเเสดงความเคารพ คณะสงฆ์ท่านแบ่งหน้าที่การปกครองกันไว้แล้ว ควรปล่อยให้ท่านจัดการกันนะคะ
ตอบลบตกลงทำเพื่ออะไรจะให้พวกท่านมาคุมพระใช่ใหม
ตอบลบตกลงทำเพื่ออะไรจะให้พวกท่านมาคุมพระใช่ใหม
ตอบลบ#ทำอะไรได้เข้าไปปรึกษาคณะสงฆ์บ้างหรือไม่..?เคยเห็นหัวชาวพุทธหรือเปล่า..?
ตอบลบ#เพราะพระพุทธศาสนามิใช่หรือที่ทำให้บ้านเมืองเป็นปึกแผนมั่นคงมาถึงทุกวันนี้
ให้สงฆ์ปกครองสงฆ์เถอะค่ะ
ตอบลบสรัางความปองดอง หรือแตกแยกยังสงสัย?
ตอบลบพระสงฆ์ท่านดูแลกันเองได้
ตอบลบให้พระสงฆ์ดูแลกันเองดีไหม
ตอบลบ5555 ขำ กับคำว่าขัดเเย้ง
ตอบลบขัดเเย้ง กับใครหรือคะ?
คนที่คิดต่าง ไม่ได้ทำให้เเตกเเยก
อยากรู้ไหม ว่าใครทำบิดเบือนศาสนา
เเ่ละ ทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุข
คิดออกไหมคะ?
ม.44 ไม่ใช่ทางออก
อำนาจ ที่ปราศจาก ความเมตตา
คือ อำนาจ ที่นำมาซึ่งความปราชัย
ให้พระสงฆ์ดูแลกันเองดีกว่าไหมค่ะ
ตอบลบไม่เข้าใจว่าจะอยากมาวุ่นวายกับเรื่องของพระ เรื่องศาสนาในเวลานี้เพื่ออะไรมากมายกันเล่า??
ตอบลบในส่วนราชอาณาจักรไปทำหน้าที่ของตนให้เหมาะสมดีกว่า เพราะการไล่ล่าพระออกหมายจับ กล่าวเท็จ รื้อทำลายวัดดังข่าวที่เห็นมาตลอดรายวันไม่ได้ช่วยฟื้นฟูพระพุทธศาสนาแต่อย่างใดแต่เห็นแต่ทำลายพระพุทธศาสนาแล้วจะเอาม.44มาขู่อีก
ตอบลบJunta ปัญญ่อ่อนอ่ะ ออกมาแต่ละกฏงี้ หางสะบัด เก็บไม่มิดเลย
ตอบลบในส่วนราชอาณาจักรไปทำหน้าที่ของตนให้เหมาะสมดีกว่า เพราะการไล่ล่าพระออกหมายจับ กล่าวเท็จ รื้อทำลายวัดดังข่าวที่เห็นมาตลอดรายวันไม่ได้ช่วยฟื้นฟูพระพุทธศาสนาแต่อย่างใดแต่เห็นแต่ทำลายพระพุทธศาสนาแล้วจะเอาม.44มาขู่อีก
ตอบลบรัฐไม่ควรแทรกแทรงพุทธศาสนา
ตอบลบหากว่า ท่านนายกตู่ รักพุทธศาสนาอย่างจริงใจ ก้อควรเทใจให้ความสำคัญต่อพุทธศาสนามากกว่า นั่นคือ ต่อหน้าอย่างไรแลหลังก้อควรให้ชัดเจนทุกมุมมองด้วย
ตอบลบฆราวาสไม่ควรเข้าบริหารงานสงฆ์ เขามี มส.ดูแอยู่
ตอบลบพระพุทธศาสนา ให้พระสงฆ์ดูแลกันเองดีไหมครับ
ตอบลบสร้างความปรองดอง คือรัฐไม่ใช้อำนาจที่่มีอยู่แทรกแทรงกิจกรรมของสงฆ์ และสงฆ์ก้ไม่เคยแทรกแทรงกิจกรรมด้านการเมืองเลยแม้ในอดีต
ตอบลบหยุดทำร้ายพระพุทธศาสนาเถอะค่ะ
ตอบลบหยุดทำร้ายพระพุทธศาสนาเถอะค่ะ
ตอบลบคณะสงฆ์อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขดีๆ แต่พอมี... มันเกิดอะไรขึ้นกับทุกวันนี้
ตอบลบพยายามตั้งหัวเรื่อง เพื่อทำลายพุทธศาสนา บาปหนักก็ไม่กลัว ท้าทายวิบากกรรมมาก ได้เจอแน่
ตอบลบให้สงฆ์ปกครองดูแลกันเอง รัฐมีหน้าที่สนับสนุนเท่าที่ควรจะเป็น ไม่ควรก้าวก่ายหรือแทรกแซงกิจของสงฆ์ ฆารวาสอย่าได้หาญจะมาปกครองสงฆ์
ตอบลบเรื่องศาสนาหั้ยสงฆ์ท่านชำระกันเหอะ โยมรู้เท่าไม่ถึงจริงอย่าเข้าไปยุ่งเลย มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ตอบลบ#การใช้ม.44..เพื่อเอื้อให้บางศาสนาผลาญงบประมาณไปต่างประเทศหรือเปล่า..?
ตอบลบ#.หรือให้นายไพบูลย์.ยืมมืออำนาจรัฐไปจัดการกับพุทธใช่หรือไม่.?
#..ต้องการจัดให้คนทุศีลมาปกครองสงฆ์ใช่หรือไม่..?
พระรัตนตรัย เป็นของสูงไม่ไปก้าวก่ายดีที่สุด เพราะฆารวาทศีล 5 รักษาให้ได้ก่อนค่อยคิดไปจัดระเบียบพระสงฆ์
ตอบลบกรูณาทำในสิ่งที่ถูกที่ควรเถอะ
ตอบลบถ้ารัฐบาลให้งบให้พี่น้องมุสลิมไปแสวงบุญกรุงเมกกะ รัฐบาลก็ต้องให้งบพี่น้องชาวพทธไปสังเวชนียสถานด้วย...กฎหมายต้องเท่าเทียม ไม่ใช่เลือกปฏิบัติ
ตอบลบถ้ารัฐบาลให้งบให้พี่น้องมุสลิมไปแสวงบุญกรุงเมกกะ รัฐบาลก็ต้องให้งบพี่น้องชาวพทธไปสังเวชนียสถานด้วย...กฎหมายต้องเท่าเทียม ไม่ใช่เลือกปฏิบัติ
ตอบลบดูหน้าตาคนใช้ ม.44 แล้ว บอกตรงๆ ว่าไม่น่าเชื่อถือ
ตอบลบประเทศไทยอยู่กันอย่างสงบมานับหลายร้อยปี โดยมี 3 สถาบันหลัก เป็นหลักในการปกครอง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต่างฝ่ายปกครองตนเอง อยู่กันมาอย่างสงบ เรียบง่ายและร่มเย็นเป็นสุขมาโดยตลอด มาบัดนี้ คนในสถาบันชาติ อยากมีอำนาจควบคุมสถาบันศาสนา ด้วยเหตุผลใดหรือคะ? ควบคุมแล้วมันจะดีขึ้นอย่างไร ใครเป็นผู้ได้ผลประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงนี้ จริงหรือว่า ถ้าคนในชาติ ควบคุมศาสนาแล้ว ประเทศชาติจะดีขึ้น?? หรือว่ามันจะแย่ลง?? แล้วต่อไป 3 สถาบันหลัก ก็คงไร้ความหมาย แล้วเราจะอยู่กันอย่างสงบเหมือนเดิมหรือป่าว ใครบอกได้บ้างคะ??
ตอบลบช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาครับ
ตอบลบจะไม่สงสัยอะไรเลย ถ้าวันนี้จนท.รัฐไม่มุ่งจ้องทำลายพระ ทำลายพระพุทธศาสนา เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำแน่นอน
ตอบลบถ้าฆาราวาสมาปกครองสงฆ์ ย่อมมีผลเสียมากกว่าผลดี ความเเตกเเยกย่อมตามมาเเน่นอน
ตอบลบตามหลัก "พระธรรมวินัย" ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว และจะเป็นศาสดาแทนพระพุทธองค์ ในพระพุทธศาสนาต่อไปในกาลอันที่ทรงเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ดังนั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าว ย่อมแจ่มแจ้งชัดเจนที่สุด ว่า "พระธรรมวินัย" ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ดีแล้ว ย่อมเป็นแนวปฏิบัติที่ชัดเจน เป็นอกาลิโก คือ เป็นความจริงโดยไม่จำกัดกาล แม้กาลล่วงเลยมาถึงปัจจุบัน และต่อไปในอนาคตด้วย และด้วยเหตุผลดังกล่าว สงฆ์จึงต้องปกครองสงฆ์ด้วยกัน ตามพระธรรมวินัย เท่านั้นฯ
ตอบลบคุ้มครองพุทธศาสนาของชาวพุทธชอบแล้ว แต่เพื่อตามความเชื่อของบางคนที่จะบังคับให้คนอื่นเชื่อตาม ไม่ใช่สิ่งที่ถูก หรือใช้เป็นข้ออ้างในการล้มล้างชาวพุทธกลุ่มอื่นก็ไม่ถูก ชาวพุทธทั้งมวลต้องต่อต้าน
ตอบลบ"จะไว้ใจได้ไหม..." เราชาวพุทธต้องอดทน... เข้มแข็งและสามัคคีกันไว้เพื่ออนาคตของพระพุทธศาสนาบนผืนแผ่นดินไทย... พวกเราต้องช่วยกันรักษาพระศาสนาไว้เพื่อเป็นสมบัติสืบทอดไปสู่ลูกหลานรุ่นต่อๆไปของพวกเราตราบนานเท่านาน...สาธุ
ตอบลบบิ๊กตู่ หน้าตาเริ่มหมองลงนะครับ
ตอบลบมากไปแล้ว มาก้าวก่ายอะไรกับคณะสงฆ์ ให้ท่านดูแลกันเองดั่งเช่นแต่ก่อนๆนั่นดีแล้ว
ตอบลบรัฐก็อยู่ส่วนรัฐสิ
หน้าดำ คร่ำเครียด. หมอจีนจะพูว่า "โหงวเฮ้งลื้อแย่นะอาตู่อ่ะ ลื้อเข้าวัดมั่งเป่า. "
ตอบลบใกล้จะหมดยุคกาขาวแล้ว จะก้าสู้ยุคสิวิไลแล้ว คนไม่มีคีลธรรมจะไม่มีฝครคบหา และจะไม่มีที่อยู่ในสังคม เพราะต่อไปจะมีแต่คนมีศีลเต็มบ้านเต็มเมื่อง
ตอบลบใกล้จะหมดยุคกาขาวแล้ว จะก้าสู้ยุคสิวิไลแล้ว คนไม่มีคีลธรรมจะไม่มีฝครคบหา และจะไม่มีที่อยู่ในสังคม เพราะต่อไปจะมีแต่คนมีศีลเต็มบ้านเต็มเมื่อง
ตอบลบสาธุ สงฆ์ควรดูแลสงฆ์ด้วยกัน
ตอบลบช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนา
ตอบลบช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนา
ตอบลบพฤติกรรมเท่าทีผ่านมาน่าไว้วางใจหรือ?
ตอบลบ