เปิดแผนลับ ฮุบ! กลืนพุทธ




พระธรรมเมธาภรณ์

หรือ เจ้าคุณระแบบ ฐิตญาโณ
อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศ
ประธานศูนย์พิทักษ์พุทธศาสนาฯ
เป็นชาวปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช


ท่านเป็นบุคคลแรกของเมืองไทย
ที่นำแผนของขบวนการทำลาย
ศาสนาพุทธในเมืองไทยมาเปิดโปง
พร้อมรายชื่อพระดีมีชื่อเสียงในยุคนั้น
ประมาณ 40 รูปที่อยู่ในบัญชีดำของเขา


พระอาจารย์นิกร พระอาจารย์ยันตระ
หลวงพ่อภาวนาพุทโธ และพระฯลฯ

ทุกรูปต่างก็รู้ตัวดีว่ามีชื่ออยู่ในบัญชีดำ
และอยู่ในลำดับต้น 1 ใน 5 เสียด้วย
แต่จะให้ท่านป้องกันตัวอย่างไร
ในเมื่อภัยมีรอบด้านทั้งในวัด นอกวัด



พระอาจารย์ยันตระ อมโร
ก่อนที่จะมีข่าวดังครึกโครมก็ได้มี
มือที่มองไม่เห็นส่งสัญญาณเตือนว่า

"ให้หยุดนำพาหมู่คณะออกเดินธุดงค์
ให้เผยแผ่อยู่แต่ในสำนักเท่านั้น"


ทำไมต้องให้หยุดเดินธุดงค์?
เพราะเขาทราบดีว่าการเดินธุดงค์นั้น
คือการเผยแผ่ศาสนาในเชิงรุก
จะก่อให้เกิดศรัทธาแก่ผู้คนได้มาก
ศาสนาก็จะรุ่งเรืองและมั่นคง
ซึ่งเป็นสิ่งที่เขายอมให้เกิดขึ้นไม่ได้

ตลอดรายทางของการเดินธุดงค์
แบบหมู่คณะมีพลังต่อมหาชนมาก
วันหนึ่งเดินประมาณ 15-20 กิโลเมตร
แล้วก็หยุดพักแสดงธรรม
ก็จะมีชาวบ้านมาฟังธรรมจำนวนมาก

ผู้ที่มาฟังธรรมก็มีหลายระดับ
ผู้ที่มีฐานะร่ำรวยมีที่ดินหลายแปลง
เมื่อศรัทธาเกิดขึ้นเต็มที่แล้ว
ก็มักจะจบลงด้วยการปรึกษาครอบครัว
ถวายที่ดินให้สร้างเป็นสำนักสาขา

ส่วนผู้ที่มีทรัพย์น้อยมีศรัทธามาก
ก็ขอลาครอบครัวบำเพ็ญบุญด้วยการ
ขอเดินธุดงค์ร่วมกับหมู่คณะต่อไป

บางคนที่ศรัทธาเกิดเต็มบริบูรณ์แล้ว
ก็เคลียร์ภาระเตรียมตัวออกบวช
เพื่อมาอยู่ปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์

พระอาจารย์ยันตระ แห่งเกริงกระเวีย
ทำไมจึงมีคนศรัทธามากมายในยุคนั้น

หนังสือที่วางขายตามแผง
เพียงมีรูปพระอาจารย์ยันตระหน้าปก
จะขายเกลี้ยงแผงในเวลาไม่นานนัก

เหตุที่เป็นดังนั้นมิใช่เพียงเพราะ
ท่านรูปงามปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเท่านั้น
แต่เพราะท่านเผยแผ่ศาสนาในเชิงรุก
เอาธรรมะไปเสริฟถึงบันไดบ้าน
นี่คือที่มาของเรื่องราวทั้งหมด

พระอาจารย์ยันตระ ท่านไม่เคย
พาหมู่คณะเดินธุดงค์ในเมือง
เช่นธรรมกายก็ยังโดนสั่งห้ามมาแล้ว

ฉะนั้นประเด็นสำคัญจึงไมได้อยู่ที่
การเดินธุดงค์ในป่าในเมืองผิดหรือถูก
แต่ประเด็นสำคัญคือการเดินธุดงค์
สามารถสร้างศรัทธาได้มากนั้นเอง
เขาจึงยอมให้เกิดกิจกรรมนี้ไม่ได้

มือที่มองไม่เห็น
ช่างน่ากลัวจริงๆ

หวังอะไร ???
หวังให้พระพุทธศาสนา
ร่มสลายงั้นหรือ





เปิดแผนลับ ฮุบ! กลืนพุทธ เปิดแผนลับ ฮุบ! กลืนพุทธ Reviewed by bombom55 on 04:14 Rating: 5

28 ความคิดเห็น:

  1. ขบวนการนี้มีมาตั่งแต่เมื่อไรไม่รู้
    แต่ที่รู้และน่าเสียใจยิ่งคือคนไทยพุทธ
    ร่วมมือกับมือที่มองไม่เห็นล้มล้างศาสนาที่บรรพบุรุษ
    ศรัทธาและสืบทอดกันมา
    เพียงเพื่อผลประโยชน์แกตนเอง
    โดยไม่รู้ตัวเลยว่าถูกเขาหลอกใช้ไปเต็มๆ

    ตอบลบ
  2. ขบวนการนี้มีมาตั่งแต่เมื่อไรไม่รู้
    แต่ที่รู้และน่าเสียใจยิ่งคือคนไทยพุทธ
    ร่วมมือกับมือที่มองไม่เห็นล้มล้างศาสนาที่บรรพบุรุษ
    ศรัทธาและสืบทอดกันมา
    เพียงเพื่อผลประโยชน์แกตนเอง
    โดยไม่รู้ตัวเลยว่าถูกเขาหลอกใช้ไปเต็มๆ

    ตอบลบ
  3. น่ากล้วคนไทยจะอยุ่ลำบากแล้วถัาเป็นเช่นนี้

    ตอบลบ
  4. น่ากล้วคนไทยจะอยุ่ลำบากแล้วถัาเป็นเช่นนี้

    ตอบลบ
  5. แล้วอนาคตธงชาติไทยละ่ครับ?

    ตอบลบ
  6. แล้วอนาคตธงชาติไทยละ่ครับ?

    ตอบลบ
  7. ถ้าไม่ให้นับถือศาสนาพุทธก็จะขออยู่แบบคนไร้ศาสนา ดีกว่าจะไปนับถือศาสนาที่ชอบใช้ความรุนแรงในการบังคับคนให้นับถือ

    ตอบลบ
  8. เชื่อผมเถอะครับ พระในเมืองไทยมีแค่องค์เดียวที่บังคับไห้ศรัทธาและกราบไหว้ มีหลายองค์ดังไม่ได้มันทำไห้เสื่อม

    ตอบลบ
  9. ทุกประเทศที่เคย้ป็นพุทธ เมื่อเปลี่ยนเป็นเมืองที้เกื้อกูลอิสลาม ชาวพุทธมักอยูไม่ได้และไม่เป็นสุข

    ตอบลบ
  10. กูเก็เห็นแต่เหี้ยวะแล้วอาลชีแอบอ้างพระพุทธศาสนาทำมาหาแดกจนร่ำรวย

    ตอบลบ
  11. เพชรเม็ดเดียวแท้ๆ..ทำให้พุทธศาสนาหม่นหมอง ด้วยว่าต้องเชิดชูอีกฝ่ายขึ้นมาเป็นการตอบแทน..แต่เป็นการตอบแทนที่ทำให้พุทธต้องล่มสลายกันเลยทีเดียว

    ตอบลบ
  12. เพชรเม็ดเดียวแท้ๆ..ทำให้พุทธศาสนาหม่นหมอง ด้วยว่าต้องเชิดชูอีกฝ่ายขึ้นมาเป็นการตอบแทน..แต่เป็นการตอบแทนที่ทำให้พุทธต้องล่มสลายกันเลยทีเดียว

    ตอบลบ
  13. โอ้อนิจาประโคมข่าวใส่ร้ายป้ายสีพระเผยแผ่
    พระพุทธศาสนา...หวังให้ชาวพุทธฆ่ากันเอง
    เสียเวลาอธิิบายเหตุผลให้คนพุทธที่ไม่เอาเหตุผล
    แถมยังว่าให้คนเผยแผ่ทำงานได้ช้าแล้วหมดกำลังใจ
    ไปเองหรือไม่ก็แก่ตายไปก่อน
    ผู้วางแผนชั่วร้ายน่าสงสารจริงๆ
    ตัวเองทำบาปมหันต์...ตายไปต้องรับกรรมชั่ว
    ยังคิดว่าตัวเองทำลายพุทธศาสนาได้

    ตอบลบ
  14. ธรรมะย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม
    กฏแห่งกรรมเป็นกฏเหล็กอยู่คู่โลกมายาวนาน
    ไม่มีใครพ้นสักคนเดียว

    ตอบลบ
  15. ธรรมะย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม
    กฏแห่งกรรมเป็นกฏเหล็กอยู่คู่โลกมายาวนาน
    ไม่มีใครพ้นสักคนเดียว

    ตอบลบ
  16. โอ้อนิจาประโคมข่าวใส่ร้ายป้ายสีพระเผยแผ่
    พระพุทธศาสนา...หวังให้ชาวพุทธฆ่ากันเอง
    เสียเวลาอธิิบายเหตุผลให้คนพุทธที่ไม่เอาเหตุผล
    แถมยังว่าให้คนเผยแผ่ทำงานได้ช้าแล้วหมดกำลังใจ
    ไปเองหรือไม่ก็แก่ตายไปก่อน
    ผู้วางแผนชั่วร้ายน่าสงสารจริงๆ
    ตัวเองทำบาปมหันต์...ตายไปต้องรับกรรมชั่ว
    ยังคิดว่าตัวเองทำลายพุทธศาสนาได้

    ตอบลบ
  17. คนไม่ถือศีล..5
    เราไม่สามารถอธิบายเหตุผล
    ให้คนที่ไม่ต้องการฟังเหตุผลได้
    เพราะศีล..5 ยังไม่เคยฝึกฝนจึง
    เริ่มต้นทำความดียังไม่ได้
    แปลกแต่จริง...ทำไม่ดีได้เป็นปกติ
    น่าสงสารจังเลย

    ตอบลบ
  18. ศาสนาทุกศาสนานั้น ไม่ได้สอนให้คนทำในสิ่งไม่ดีเลย เพียงแต่คนในสมัยใหม่ไม่ค่อยจะศรัทธาเลื่อมใสในศาสนาและคำสอนของแต่ละศาสนานั้น

    ตอบลบ
  19. คนพุทธต้องหนักแน่น ไม่ตกเป็นเหยื่อให้มือที่มองไม่เหฺ็นปั่น ยืมมือทำลายกันเอง ตั้งสติรู้ทันก่อนสูญเสียพระพุทธศาสนาไป รู้เมื่อสายเกินไป

    ตอบลบ
  20. คนพุทธต้องหนักแน่น ไม่ตกเป็นเหยื่อให้มือที่มองไม่เหฺ็นปั่น ยืมมือทำลายกันเอง ตั้งสติรู้ทันก่อนสูญเสียพระพุทธศาสนาไป รู้เมื่อสายเกินไป

    ตอบลบ
  21. เราจะยอมให้พระพุทธศาสนามาสิ้นสุดลงในยุคสมัยของพวกเราหรือ

    ตอบลบ
  22. พระก็ทำหน้าที่ของพระ มารก็ทำหน้าที่ของมาร ธรรมะย่อมชนะอธรรมในที่สุด

    ตอบลบ
  23. บรรพบุรุษเสียเลือดเนื้อสร้าง ศาสน์ เพื่อให้คนไทยได้มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ มีที่พึ่งยามมีทุกข์ เราก็อยู่มาอย่างสงบสุข แล้วไฉนมือที่มองไม่เห็นจะมาทำลายศาสน์ของเรา เพียงเพื่อเงินตัวเดียว ยอมทำร้ายคนในชาติได้ จิตใจทำด้วยอะไรนะ อีกไม่นานกฎแห่งกรรมคงได้ทำหน้าที่แล้ว

    ตอบลบ
  24. อยากรู้ข่าวจริงหรืออยากเอามันกับข่าวตามกระแส

    ชาวสหกรณ์มึน ทำไม DSI ไม่เคยตอบคำถามสังคมว่า เงิน 3,800 กว่าล้านไม่คืนสหกรณ์???

    หลังจากที่มีคดีความเรื่องสหกรณ์ แล้วสหกรณ์อยู่รอดต่อมาได้อีก 1 ปี ก็เพราะมีเงินคืนให้เจ้าหนี้สหกรณ์ ซึ่งเงินส่วนใหญ่นั้นได้รับมาจากพวกลูกศิษย์ธรรมกาย ที่ลงขันกันมอบเงินช่วยเหลือรวม 2 งวดเกือบ 1 พันล้านบาท (งวดแรก 600 กว่าล้าน งวดหลัง 300 กว่าล้าน)

     
    ซึ่งพวกธรรมกายเค้าก็ลงขันมอบให้สหกรณ์ครบหมดแล้ว แล้วทางสหกรณ์ก็ถอนฟ้องวัด ไม่ติดใจเอาเรื่อง แถมเขียนจม.มาขอบคุณอีกด้วย

     
    แต่..แต่..แต่…มา ณ วันนี้ เงินที่ได้จากพวกลูกศิษย์วัด ทางสหกรณ์ก็ใช้ไปหมดแล้ว สหกรณ์จึงเกิดปัญหาใหม่ตามมา คือ ณ เวลานี้สหกรณ์จะเอาเงินจากที่ไหนไปฟื้นฟูและใช้หนี้ที่เหลือของปีนี้ (ซึ่งต้องใช้เงินมากถึง 1,200 ล้านบาทต่อปี) เพราะที่รัฐบาลสัญญาว่าจะให้เงิน 1 หมื่นล้าน และช่วยตามหนี้ให้ แต่ก็ไม่เห็นมีใครมาสนใจเรื่องความเดือดร้อนของสหกรณ์และความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่กำลังจะอดตายอย่างจริงจังเลย !!!

     
    และที่เลวร้ายหนักไปกว่านั้น คือ DSI เองกับเจ้าหน้าที่รัฐกลับเป็นคนที่ไม่ยอมคืนเงิน 3,800 กว่าล้านบาทที่ยึดมาจากศุภชัยให้สหกรณ์เองอีกด้วย โดยอ้างเหตุผลต่างๆ นานา (ไม่เชื่อลองฟังคำยืนยันจากปากคุณประกิตเอง)

     จากเหตุการณ์นี้ คุณประกิตถึงกลับบอกว่า..ถ้าสหกรณ์มีอันเป็นไปหรือล้ม ก็อย่ามาโทษผม ว่าผมฟื้นฟูไม่ได้ แต่เพราะ DSI และเจ้าหน้าที่รัฐฯ ยึดเอาเงินสหกรณ์ไป แล้วไม่มีวี่แววว่าจะคืนให้ อีกทั้งรัฐบาลก็ไม่ทำตามสัญญาที่จะมอบเงินเยียวยาให้ 1 หมื่นล้านด้วย !!!

    จุดจบสหกรณ์ คลองจั่น ไร้เงินหมื่นล้าน  รัฐปล่อยลอยแพ !!!

    youtube ค้นคำว่า เผชิญหน้า 23/02/60 จุดจบ“สหกรณ์ฯ คลองจั่น” ไร้เงินหมื่นล้าน ถูกรัฐบาลลอยแพ (1)

    เผชิญหน้า ตอนที่ 1 คลิก https://www.youtube.com/watch?v=isOSwD7_ens

    เผชิญหน้า ตอนที่ 2 คลิก https://www.youtube.com/watch?v=dxKD1ItNMvc&feature=youtu.be

    http://hot-answer.blogspot.com/2017/03/blog-post.html

    ตอบลบ
  25. ถ้าคุณคิดว่าภัยศาสนาพุทธเป็นเรื่องไกลตัวลองอ่านซักนิด
    ถ้าคุณคิดว่าเราศรัทธาในพุทธใครมาเปลี่ยนแปลงอะไรเราไม่ได้คิดผิดเพราะเขาจะบีบเราทั้งทางตรงทางอ้อมจากระบบการปกครอง
    ตอนนี้รัฐบาลยุบอบต.ไปเป็นระบบเทศบาลที่จะไม่มีการเลือกตั้ง แต่จะแต่งตั้งจากส่วนกลางมาบริหารดูแลคนในท้องถิ่นแทนคนในพื้นที่ การอนุมัติช่วยเหลือต่างๆจะเอื้อให้แก่ศาสนาอื่น คนไทยพุทธจะกลายเป็นประชากรชั้น2ที่จะไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน ถ้าอยากจะได้ต้องย้ายศาสนา
    ในช่วงนี้ลองสังเกตในชุมชนของคุณจะมีคนต่างศาสนามาอาศัยมากขึ้นๆมีการสร้างศาสนสถานของศาสนาของเขาจากงบอบต. และเมื่อเขาผลิตประชากรมากๆตามแนวทางศาสนาก็ย่อมมีฐานเสียงในการเลือกผู้แทนเข้าไปบริหารการจัดการเพื่อเอื้อศาสนาของเขา ในขณะเดียวกันตอนนี้สนช.ที่มีคนต่างศาสนา63คนได้แก้พรบ.สงฆ์ในการริดรอนศาสนาพุทธให้เล็กลงๆด้วยการล้วงย่ามพระเข้ารัฐ เมื่อได้เงินจากพุทธก็ไปเอื้อศาสนาตนดังเช่นที่เป็นอยู่ตอนนี้ที่เอาภาษีคนพุทธส่วนใหญ่ไปสร้างศาสนสถานให้พวกเขา แต่วัดไทยกว่าจะสร้างได้แต่ละหลังรอกฐินกันไปปีต่อปี
    ประเทศเหล่านี้อดีตเคยเป็นเมืองพุทธ ที่มีร่องลอยพระพุทธศาสนาเป็นศาสนสถานว่าได้ถูกทำลายลง เช่น นาลันทาอินเดีย บรูไน บรมบุดโดอินโดนีเซีย พระในถ้ำหินผาบาบิลันปากีสถาน อย่าให้ไทยเป็นประเทศต่อไปเลย บรรพบุรุษเราเสียเลือดเนื้อปกป้องศาสนามานานอย่าให้สิ้นไปในยุคนี้เลย

    ตอบลบ
  26. เจ้าคุณระแบบฯ เป็นพระพี่ชายของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประะานฯ นปชง คนปัจจุบัน เจ้าคุณระแบบผู้นี้ เป็นผู้รับรองว่าพระยันตระ อมโร เป็นพระผุ้บริสุทธิ็ด้วยศ๊ลทั้งสิ้นโดยไรข้อครหานินทาจากทางโลกในเหตุการณ์ขณะนั้น คือในช่วงเวลานั้น เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๓๓-๒๕๓๘ เป็นเหตุการณืที่พระยันตระโด่งดังที่สุด ด้วยการแสดงตนเป็นพระที่มีศีลบริสุทธิ์จนผู้คนนับถือติดตามกันอย่างล้นหลาม มีผู้ปูผ้ากราบไหว้และนำไปบูชา โดยพระยันตระจะแสดงคนให้รู้ว่าตนเองน่ะปฏิบัติธรรมจนบรรลุธัมมะชั้นสูงในคำสอนของพระศาสดาแล้ว?? อีกอย่งหนึ่งคือพระยันตระจะทำตัวหรือพูดจากับญาตโยม ด้วยคำพูดจาคล้ายกับไทยเชื้อสายเนปาล ทั้งนี้เพื่อให้ญาติโยมที่ศรัทธาตนจะได้เข้าใจว่าตนมีเชื้อสายทางโคตรของเจ้าชายสิทธัตถะ ในตระกูลโคตมะ!!?? และเมื่อพระยันตระมีผู้ศรัทธาติดตามตนมากเข้า ก็มีผู้นิมนต์ตนเองไปเผยแพร่คำสอนของตนในต่างประเทศคือที่ประเทศออสเตรเลีย และเยอรมันนี แต่ในการไปเผยแพร่คำสอนของตนนี้เมื่อตนเองเผยแพร่คำสอนของตนเองแล้ว ในช่วงเวลาดึกๆ พระยันตระได้ออกไปท่องราตรีด้วยตัวคนเดียวบ้า หรือกับพระคนสนิทบ้าง(พระอุปปัฏฐาก) จนมีผู้รู้เห็น และที่สำคัญคือรถแท็กซี่ในต่างประเทศที่พระยันตระไปเที่ยวสำนักหญิงที่รับชำเราบุรุษนั้น เมื่อถึงที่หมายผู้โดบยสารชำระเงินค่ารถแล้ว เขาจะมีใบเสร็จรับเงินให้กับผู้โดยสารไว้?? ซึ่งในประเทศเยอรมันก็เหมือนกัน แต่ในประเทศเยอรมันนี พระยันตระได้เข้าไปในที่พักของหญิงสาวชาวต่างประาเทศผู้หนึ่ง โดยตนเองจะไปขร่วมเพศกับหญิงผู้นั้น แต่ถูกปฎิเสธ และหญิงชาวต่างประเทศผู้นั้นก็นำเรื่องนี้มาเปิดเผยต่อหน้าลูกศิษย์ของพระยันตระเอง พร้อมกับถามว่าในศาสนาพุทธมีการกระทแบบนี้ด้วยหรือ?? เมือ่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมีโจทย์ยื่นเรื่องขอให้มหาเถรสมาคม(มส.) พิจาร ในการบวนความผิดและหลักฐานทั้งมวล ก็มมติให้พระยันตระสึกจากควาเป็นพระ?? และพระยันตระได้ทราบมติมหาเถระสมาคมแล้ว ก็เปลี่ยนการครองจีวรจากสีเหลือหรือสีฝาด มาเป็นสีฝาดอมเขียว จึงมีฉายาว่า"จิ้งเขียว" จากหนังสือพิมพ์ในขณะนั้น?? แต่พระยันตระก็ออกมาโต้ตอบและดูหมิ่น สด.พระสังฆราชวัดบวรฯ คือสมเด็จฯเจริญ ซึ่งเป็นพระของนายหลวง ร.๙ จึงมีการดำเนินคดีต่อพระยันตระ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกดำเนินการจับกุม และสึกจาก"พระสงฆ์" ทันที พระยันตระ หรือนายวิชัยฯ เป็นว่าอยู่ในประเทศไทยไม่ได้อีกต่อไป จึงต้องหนี้ไปอยู่ประเทศอเมริกา และได้ยื่นรูปถ่ายที่ตนเองได้ถ่ายไว้ในที่ตั้งปืนใหญ่ ซึ่งเป็นรูปพระยันตระนั่งอยู่กับปืนใหญ๋ ต่อศาลอเมริกาว่าต้องลี้ภัยจากระบอบเผด็จการทหาร?? สาลอเมริกาจึงพิพากษาให้ลี้ภัยในอเมริกาได้เพราะพระยันตระและพวกโดนคุกคามจากเผด็จการทหาร!!?? จนคดีความหมดอายุลง จึงได้เดินทางกลับมาประเทศไทยเมื่อเร็วๆนี้..ส่วนกับเรื่องที่ลุงสุรชัย พูดถึงนายวิชัย ยันตระ อมโร ในคลิปของตนเองนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ลุงสุรชัย ไม่พูดความจริงให้หมด พูดเพียงแต่ว่า นายวิชัย ยันตระอมโร ถูก ร.๙ กลั่นแกล้ง นั่นเป็นเพียงส่วนน้อย ส่วนจริงๆ แกกลับไม่พูดถึง?? เพราะเป็นใต้บ้านเดียวกันมั้ง???? เอวัง..ก็มีด้วยประการฉนี้..

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เยี่ยม
      ช่วงวิบากกรรม ธรรมกายไม่เคยออกความเห็นเชิงปกป้องยันตระ ไม่ต่างกับกรณีภาวนาพุทโธ พระนิกร พอตัวเองโดนคดี แม้จะคนละคดีกัน ธรรมกายตะกายหาพวก หาว่าพระดี (รวมตัวเอง) ถูกกลั่นแกล้ง โดยไม่ได้มองข้อเท็จจริง สรุป ลากกันลงเหว

      ลบ
  27. ชาวพุทธต้องมีความเข้มแข็ง สามัคคี อย่าอิจฉากันเอง และอย่าเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.