ใครกันแน่ เอาวัดพระธรรมกายไปยุ่งกับการเมือง
พลันที่เหตุผลที่ “คณะศิษยานุศิษย์” แห่งวัดพระธรรมกายประกาศว่า พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ สุทธิผล) จะยังไม่มอบตัว
รอจนกว่าประเทศจะเป็น “ประชาธิปไตย”
กรณีของคดีความว่าด้วยการฟอกเงินและรับของโจรอันมาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็ถูกแปรเป็นเรื่องในทาง “การเมือง”
แต่คำถามก็จะย้อนกลับไป ยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ด้วยเหมือนกันว่า
ใครกันแน่
ที่ทำให้เรื่องของ พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ สุทธิผล) กลายเป็นเรื่องทางการเมือง
ทำไม ???? ต้องโยงไปยัง “มหาเถรสมาคม” (มส.)
ทำไม????? ต้องดึงเอา สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ซึ่งดำรงอยู่ในสถานะแห่งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชเข้ามาเกี่ยวข้อง
ใครกันแน่
ที่ทำให้เรื่องราวของวัดปากน้ำภาษีเจริญกับวัดพระธรรมกายกลายมาเป็นเรื่องเดียวกัน
นี่ไม่ยิ่งกว่าเป็น “การเมือง” มากกว่าหรอกละหรือ
เมื่อเป็นเรื่องทางการเมือง กรณีการจับกุม พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ สุทธิผล) จึงดำเนินไปด้วยความสลับ ซับซ้อน และยอกย้อนเป็นพิเศษ
ทำให้ต้องมีปฏิบัติการแห่ง “โดรน”
ทำให้ต้องมีปฏิบัติการเสมือนว่ามีการเจรจาปรากฏขึ้น ณ วัดเขียนเขต โดยมี พระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เป็นประธาน
ทั้งๆ ที่ “ดีเอสไอ” มีวาระของตนเองอยู่แล้ว
หากเห็นว่าการเจรจามีความสำคัญเหตุใดจึงแอบส่งเรื่องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้องทั้งๆ ที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจา
ใครไม่รู้ พระเทพรัตนสุธี ย่อมรู้อยู่แก่ใจ
การเล่นเอาเถิดระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กับวัดพระธรรมกายจึงยังดำเนินต่อไปด้วยความเข้ม
ฝ่ายหนึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย มีกองกำลังรองรับตามกฎหมาย ฝ่ายหนึ่งมีบารมีและความศรัทธาเป็นเครื่องมือ โอบอุ้มและให้ความเห็นใจ
นี่คือการประลองระหว่าง
“อำนาจ” กับ “ความศรัทธา”
#ไม่ยุ่ง #การเมือง
#เรามุ่งเพียงปกป้องพระพุทธศาสนา
คำที่ว่า #ตอนบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย
#เพียงเพราะวัดพระธรรมกายต้องการแน่ใจว่า
#หลวงพ่อของเราจะได้รับความเป็นธรรม
#มิได้หมายความว่าเราคือ
#พวกเดียวกับทักษิณ
#เลิกปรักปรำกันได้แล้ว
#อย่ามาหาว่าเรากบฏ
#อย่ามาหาว่าเราจะแยกเป็นรัฐอิสระ
#อย่ามาใส่ความ #พวกเราไม่เลวเหมือนคุณ #จำไว้ให้ดี
#อย่ากลัวว่าจะมีใครกบฏ
#แต่จงกลัวว่าตัวเองจะกบฏต่อความดีงามทำร้ายประชาชนและพระพุทธศาสนา
#อย่ามโน
ใครกันแน่ เอาวัดพระธรรมกายไปยุ่งกับการเมือง
Reviewed by bombom55
on
04:41
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: