เปิดหูเปิดตา สู่โลกกว้าง ซีรี่ย์ 2 วัดฉือจี้

เปิดหูเปิดตา สู่โลกกว้าง

ซีรี่ย์ 2 วัดฉือจี้

วันนี้ พาทุกท่านมารู้จักกับ องค์กร วัดฉือจี้ หรือ มูลนิธิฉือจี้ เป็นองค์กรเชิงพุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศใต้หวัน องค์กรฉือจี้ มีสมาชิก 5 ล้านคน หรือหนึ่งในสี่ของประเทศใต้หวัน คือเรียกว่าทุกบ้านในใต้หวันต้องเป็นสมาชิกฉือจี้ 1 คนเป็นอย่างน้อย

ภายในมูลนิธิ ฉือจี้ มีโรงพยาบาลระดับอินเตอร์ 6 โรง มีมหาวิทยาลัย ซึ่งผลิตแพทย์ พยาบาลที่มีคุณภาพ และเปี่ยมไปด้วยมาตรฐานคุณธรรมที่ได้ผ่านการเรียนรู้แนวพุทธศาสตร์ มาจากมหาวิยาลัยฉือจี้ภายในองค์กรเอง และยังมีโรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม มีสมาคมครู สมาคมแพทย์ มีสถานีโทรทัศน์ มีสถานีโรงงานแยกขยะรีไซเคิล มีสาธารณูปโภคครบถ้วน และมูลนิธิฉือจี้ ยังมีสาขาอยู่ในที่ต่างๆกว่า 60 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย

มูลนิธิฉือจี้ มีความโดดเด่นในเรื่องของพลังแห่งจิตอาสา ที่มีอาสาสมัครนับแสนคน ซึ่งล้วนมาจากบุคคลผู้มีคุณภาพจากทุกสาขาทุกแขนง และแต่ละท่านล้วนเป็น พ่อค้า เศรษฐี คหบดี CEO. ผู้บริหาร ข้าราชการ และประชาชนทั่วไปที่มีความรู้ความสามารถทั้งสิ้น

แต่ละคนที่เข้ามาเป็นสมาชิก ต่างก็ถอดสูท ถอดยศตำแหน่งฐานะ แล้วสวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน และกางเกงวอมสีขาวของมูลนิธิ เข้ามาขัดห้องน้ำ เก็บขยะ ทำความสะอาดถนนหนทาง เรียนรู้ระเบียบวินัยในการใช้ชีวิตประจำวัน มีการเก็บขยะจากที่ต่างๆ และนำมาแยกขยะรีไซเคิลเอารายได้จากการขายวัสดุรีไซเคิลมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในองค์กรได้จำนวนมหาศาล และสมาชิกยังมีภารกิจอาสากันไปช่วยเหลือด้านสังคมสงเคราะห์ในสถานที่ต่างๆทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น การช่วยเหลือด้านภัยพิบัติ ช่วยคนตกทุขได้ยาก เด็กกำพร้า สตรี คนชรา คนพิการ

แม้แต่ในไทยก็มีสาขาของมูลนิธิฉือจี้ ซึ่งได้เคยช่วยเหลือตอนเหตุการซึนามิ น้ำท่วมไฟไหม้ในประเทศไทย นับครั้งไม่ถ้วน แต่สื่อในประเทศไทยไม่ทำข่าวให้

บ่อยครั้งที่ประเทศไทยและหลายชาติส่งคนไปศึกษาดูงานยังมูลนิธิฉือจี้ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐและเอกชน หรือแม้แต่คณะสงฆ์จากวัดต่างๆ รวมถึงวัดพระธรรมกาย บรรดาท่านที่ได้ไปสัมผัสเรียนรู้กับการบริหารจัดการล้วนแต่ประทับใจ และเกิดแรงบันดาลใจ เมื่อกลับไปก็ได้นำไอเดียต่างๆมาต่อยอดพัฒนาบริหารองค์กรได้เป็นอย่างดี

เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างพอสังเขป สำหรับองค์กรพุทธระดับ International ในใต้หวัน และยังมีองค์กรพุทธอีกมากมายหลายองค์กร ซึ่งมีทั้งรูปแบบวัดหรือมูลนิธิ ซึ่งองค์กรเหล่านั้นต่างก็ทำงานด้านการกุศลอย่างมากมาย

เรียกได้ว่า แข่งกันทำความดีก็ว่าได้ เมื่อเทียบกับโครงการต่างๆ ที่วัดพระธรรมกายทำ เช่น เดินธุดงค์ จัดอบรม สอบปัญหาธรรมะ อุปสมบทหมู่ โครงการเด็กดีวีสตาร์ โรงเรียนตะวันชัยส่งเสริมศีลธรรม มหาวิทยาลัย ธรรมกาย และโรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดธรรมกายทำได้แค่เป็นเพียงวัดน้องของวัด ฝอกวงซาน ในใต้หวันเท่านั้น

และหลายๆ อย่างได้ตกทอดไอเดียมาใช้ในการเผยแพร่เชิงรุก ทำให้คนไทยที่ไม่เคยเห็นโลกภายนอก มองธรรมกายว่าทำอะไรใหญ่โตเกินคำว่าพุทธแบบเดิมที่คนไทยเคยเห็น เพราะไม่เข้าใจและไม่รู้จักการเผยแพร่พุทธศาสนาอย่างละเอียด

และหลายต่อหลายครั้งที่องค์กรพุทธในใต้หวันเหล่านั้น จะจัดงานหรือมีโครงการงานสาธารณะกุศลต่างๆ ก็จะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนเป็นอย่างดี แข่งกันทำความดีกันทั้งประเทศ และไม่มีการต่อต้านกังขาและไม่มีใครจ้องจะใส่ร้ายบิดเบือนข้อมูลโจมตีกันเองเหมือนในบางประเทศ ทำให้บรรยากาศของพุทธศาสนาในใต้หวันจึงดูงดงาม สงบ สันติ ใครได้ไปสัมผัสจะเข้าใจบรรยากาศของสันติภาพแบบพุทธมหายานอย่างแท้จริง

ขออนุโมทนาในกุศลจิต มา ณ ที่นี่