วัวสันหลังหวะ กรณีวัดพระธรรมกายได้ กลายมาเป็นมหากาพย์แล้วครับ


วัวสันหลังหวะ


กรณีวัดพระธรรมกายได้
กลายมาเป็นมหากาพย์แล้วครับ




เมื่อมี 1 ก็มี 2

เมื่อมีคนเสียชีวิตคนหนึ่ง ก็มีคนที่สองตามมา

'ผมไม่ชอบเลย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ใครจะถูกจะผิดอย่างไร มันไม่น่าถึงขนาดต้องมีใครตายไหมครับ'

เมื่อวานมีผู้หญิงเสียชีวิตในพื้นที่ควบคุม ม.44 ณ วัดพระธรรมกาย ด้วยโรคที่ไม่น่าจะถึงตาย คือ "หอบ"

หอบคือโรคที่ทุเลาได้เพียงแค่ได้รับยาพ่น มีเวลารักษาเพียงพอ เพราะผู้ป่วยรู้ตัวว่าเมื่อไหร่ที่ต้องการยา

แต่กลับกลายเป็นว่า 'โรคหอบเมื่อวานหนักหนาสาหัสยังกับถูกปืนยิง'

เพราะอะไร ?


เพราะหน่วยกู้ภัยมัวแต่ไปเสียเวลากับขั้นตอนห่าเหวของเจ้าหน้าที่ DSI อยู่

หน่วยกู้ภัย หรือรถฉุกเฉินใดๆ ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าต้องการความรวดเร็วทันใจ แต่นี่เสียเวลาไปกับเรื่องบ้าบอจนไปไม่ทัน

เอาแบบแม่นยำหน่อยก็คือ เสียเวลาไป 1 ชั่วโมง 10 นาทีเต็ม ๆ

พอไปถึงที่ คนป่วยก็คาที่ไปแล้ว ช่วยไม่ทัน

หนักกว่านั้นอธิบดี DSI ทำเรื่องทู่เรศซ้ำซาก ด้วยการให้ข่าวว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ขัดขวางอะไร และผู้ตายตายมาก่อนแล้ว 5 ชั่วโมง

ในขณะเดียวกัน รมต.สุวพันธ์ก็ให้ข่าวไปอีกทาง ว่าตายมานานแล้ว 2 ชั่วโมง

ไปเป่ายิงฉุบกันก่อนไหมครับ จะได้พูดตรงกัน ให้ข่าวห่านๆ อย่างนั้นประชาชนงง

โดยเฉพาะท่านอธิบดี DSI พูดพร่ำน้ำลายไอฝอยกระเด็น บอกรายละเอียดได้เป็นฉาก ๆ ราวกับเป็นจิ้งจกเกาะอยู่ในบ้านของผู้ตาย

หน้าด้านไปกว่านั้นคือหันไปโทษแพะ ว่าตายเพราะพระธัมมชโยไม่ยอมมามอบตัว

ฮ่า ๆ ๆ โบ้ยได้ฉิบหายมากเลยครับท่านอธิบดี

ไอ้ผู้ใหญ่บ้านเมืองนี้มันเป็นเทวดากันหรืออย่างไร ผมไม่เคยเห็นคนพวกนี้ทำอะไรผิดสักครั้งนึง ไม่เคยยอมรับ หรือแม้กระทั่งคิดทบทวนว่าตัวเองมีส่วนร่วมในความผิดนั้นบ้างหรือเปล่า

บริสุทธิ์กันยิ่งกว่าน้ำกลั่น ถ้าสะอาดกันขนาดนั้น พวกท่านก็ไม่น่าใช่มนุษย์อย่างเราๆ

แต่บังเอิญความลับมันไม่มีในโลก ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิดฉันใด อธิบดีแหลออกไป ก็มีหลักฐานออกมาหักล้างให้ได้หงายเงิบตามมา

***ทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยยืนยันว่าเสียเวลากับขั้นตอนจาก ม.44 จริง ๆ

ยิ่งไปกว่านั้น คือข้อความในไลน์ที่ผู้ตายขอความช่วยเหลือจากเพื่อน เกิดตอนเวลาประมาณ 11.30 น. รถกู้ภัยมาถึง 12.35 น.โดยประมาณ

ปกติรถกู้ภัยมันขับไวอย่างกับเครื่องบิน แต่ทำไมคราวนี้จึงวิ่งอย่างกับเต่าคลาน กว่าจะถึงที่เกิดเหตุจึงเนิ่นนานช้าไปเป็นชั่วโมง ๆ

กลายเป็นว่าผู้ตายเพิ่งตายไปเมื่อครู่นี้เอง ไม่ใช่ 2 ชั่วโมง หรือ 5 ชั่วโมงอย่างที่จิ้งจกมันทักมา

บอกตามตรงว่าเสียหมามาก ๆ ครับ

ถามจริง ๆ เถอะ ขนาดรัฐมนตรีกับอธิบดียังศรีธนญชัยได้ขนาดนี้ คนอื่นๆ นี่จะขนาดไหนกัน




>>>ถ้าผมมีอำนาจเหมือนท่านผู้นำ จะสั่งสอบตั้งแต่อธิบดียันผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งเหตุการณ์ หลักฐาน ทั้งพยานบุคคลล้วนหาได้ไม่ยากเย็นอะไร ไล่เช็คไปแป๊บเดียวก็รู้แล้วว่าใครคือคนผิดจริง

>>>ท่านนายกครับ สั่งสอบเลยครับ ของง่าย ๆ แมน ๆ เลยว่า ไม่ว่าใหญ่ระดับไหน มันก็อาจทำผิดได้เหมือนกัน ใช้ ม.44 ตามที่ท่านถนัดไปเลยครับ ฮ่า ๆ ๆ


นอกจากคน ผมว่ามันคือกลไกที่ท่านหยิบมาใช้ คือ ม.44 ที่ทำให้ขั้นตอนการเข้าไปช่วยเหลือล่าช้าไปหมด สัญญาณโทรศัพท์ที่ตัดไป ทำให้การติดต่อขอความช่วยเหลือทำได้ยากหนักขึ้นไปอีก

บอกตามตรงเท่าที่ติดตามข่าวมา รัฐมีทีท่าเหมือน "วัวสันหลังหวะ"

ทำอะไรงุบ ๆ งิบ ๆ ไม่สง่าผ่าเผย มีพิรุธเหมือนเคยทำความผิดอะไรไว้ แล้วกลัวคนอื่นจับได้ยังไงยังงั้น

ข้าวกล่องเจ้าหน้าที่มื้อละ 80 บาท สภาพอนาถนัก สู้ข้าวจานละ 35 บาทที่ Terminal 21 ยังไม่ได้เลย พอถูกทักก็รีบแก้ไข ลดราคาลงไปเหลือกล่องละ 50 บาท จึงได้อาหารที่มีสภาพดีกว่าเดิม

Amazing Thailand ยิ่งถูกทำไมยิ่งดี ถ้าลดลงเหลือ 40 จะดีกว่านี้ไหม 555



'ขนาดพวกเดียวกัน ยังไม่ค่อยจะโปร่งใส แล้วจะมาเรียกร้องให้เคารพกฎหมายหาตะบักตะบวยอะไรไม่ทราบครับ'

>>>ทุกวันนี้แม้มีอำนาจเด็ดขาด เหมือนถือดาบอาญาสิทธิ์ในมือ ทั้งกำลังตำรวจ ทหาร สำนักงานพระพุทธศาสนา มหาดไทย สื่อเอียง ๆ และลูกคู่ พวกดารา นักร้อง นักแสดง อาจารย์ ที่อยู่ดี ๆ ก็เกิดพุทธิปัญญาแตกฉานเรื่องพุทธศาสนาขึ้นมาดื้อ ๆ ทั้งที่อาชีพตัวเองก็มอมเมาคนอื่นด้วยความบันเทิงเริงรมย์ ปากก็พ่นว่าเป็นประชาธิปไตย แต่สนับสนุนให้ใช้ ม.44 ซะงั้น 

แต่ถึงจะมีสรรพกำลังขนาดนั้น ก็ยังทำอะไรธรรมกายไม่ได้ เพราะรัฐไร้ซึ่ง "ความชอบธรรม"

ยิ่งเห็นวิธีที่รัฐทำกับวัดแล้ว ชาวพุทธอย่างผมอเนจอนาถใจ

ทำอะไรเขาด้วยกฎหมายปกติไม่ได้ ก็ใช้ ม.44 มาบังคับ

หาคนที่ต้องการไม่เจอ ก็ล้อมวัดไว้

ค้นละเอียดทุกซอกทุกมุมจนทั่วไม่เจออะไร ก็จะไล่พระโยมออกไปเพื่อค้นใหม่อีก

เพราะเชื่อมโนจอมแหกตา ผมเห็นไอ้นี่ทีไรนึกว่าคนบ้าทุกที บอกว่าวัดมีอุโมงค์ลับ แต่ที่จริงมันคือชั้นใต้ดินควบคุมระบบน้ำ และทางตัน มันหาว่าเครื่องกดนับเลขดิจิตอล ราคาไม่กี่สิบบาท เป็นเครื่องติดต่อสื่อสารใช้ส่งสัญญาณถึงญาติโยม มันบอกตำรวจทหารว่าอย่าไปฟังเสียงเจ้าอาวาสนำนั่งสมาธิ เพราะคือการสะกดจิตอย่างหนึ่ง

พ่อแม่มันเก่งนะ รู้ว่าโตขึ้นลูกจะเป็นคนอย่างไร ถึงตั้งชื่อให้ว่า "มโน"
แล้วยังมีคนโง่ไปเชื่อมันด้วยนะ ฮ่า ๆ ๆ


>>>พอให้พระ-โยมออกจากวัดไม่ได้ ก็ยึดเสบียงอาหารไม่ให้เขามีอะไรกิน

>>>ห้ามพระต่างจังหวัดไม่ให้มาร่วมกับธรรมกายไม่ได้ ก็ส่งคนของตัวเองไปเป็น ผอ.สำนักพุทธ แล้วบังคับพระไม่ให้มา แถมตั้งด่านสกัดระหว่างทางนอกเขต ม.44 อีก

>>>กระจายข่าวสารความจริงสู้วัดไม่ได้ ก็บังคับให้ตัดสัญญาณโทรศัพท์-อินเตอร์เน็ตไปซะ

>>>และเมื่อวานนี้เอง ตัวเองแถลงการณ์วันละหลายครั้ง ส่วนวัดแถลงวันละครั้ง ก็หาเรื่องจะเอาผิดพระ ข้อหาเคลื่อนไหว ให้ข่าวรายวัน ก็พี่จะให้เขานั่งรับชะตากรรม ไม่ให้ชี้แจงอะไรเลยหรือไง


ต้องให้พระนั่งให้ข่าวนิ่ง ๆ ไม่เคลื่อนไหว หรือต้องให้เป็นรายชั่วโมงไหมครับ จะได้ไม่ผิดกติกา




<<<นอกประเทศ วัดเขายื่นหนังสือหา UN รัฐก็เต้นเป็นเจ้าเข้า หาว่าเขาไม่ได้ส่งจริง (เดี๋ยวก็รู้ว่าจริงไหม แต่ผมเชื่อนะว่าธรรมกายเขาทำได้จริง ๆ เพราะเพิ่งรู้ว่าเป็น NGO ของ UN ด้วย)

<<<องค์กรพุทธทั่วโลกเริ่มเคลื่อนไหว ทั้ง ยพศล. จัดประชุมที่เกาหลีใต้ องค์กรพุทธที่ศรีลังกา ที่พม่า และลูกศิษย์วัด ทั้งคนไทย ทั้งฝรั่ง ยื่นหนังสือให้รัฐบาลในประเทศนั้น ๆ อีรุงตุงนังกันไปหมด



รัฐบาลไทยตอบโต้อย่างไรทราบไหมครับ

เขาให้กระทรวงต่างประเทศชี้แจงว่า การใช้ ม.44 สอดคล้องกับหลักสากล


โอ้ยยยยย อาย ประเทศอื่นเขาไม่มีควายเยอะเท่าเรานะครับท่านผู้นำ

พอเถอะครับ ผมไม่รู้ว่า IQ ท่านเท่าไหร่ แต่ทุกวันนี้ลำพัง EQ ของท่านก็ทำให้คนไทยอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ไหนแล้วครับ

ดูทรงแล้วรัฐขาดความชอบธรรม แต่วัดกลับมีมันมากขึ้น

โชคดีนะ ที่วัดธรรมกายไม่ได้เป็นมาเฟีย มีกองกำลังติดอาวุธเหมือนบางวัด หรือเป็นศาสนาอื่นที่เขาไม่ยอมใคร ไม่งั้นประเทศนี้ย่อยยับพังทลายเป็นซีเรียไปแล้ว

รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลทหาร ตลอดชีวิตคุ้นเคยแต่กับการใช้อำนาจ คำสั่ง และทำลายล้างคู่ต่อสู้ด้วยกำลัง จะให้มาแก้ปัญหาที่เกี่ยวพันถึงศาสนาที่มีความละเอียดอ่อน ไม่น่าจะเหมาะเลย


>>>ผมขอเตือนความจำไม่ค่อยจำของคนไทยอีกสักครั้งหนึ่งว่า

คดีนี้ คือคดีแจ้งข้อกล่าวหา ว่าเจ้าอาวาสรับของโจร ฟอกเงิน ซึ่งเป็นคดีธรรมดาคดีหนึ่ง ความรุนแรงยังไม่ถึงกับฆ่าคนตาย

แต่เพราะคนไม่ชอบวัด จะด้วยอคติ คิดต่าง อิจฉา กลัวว่าวัดจะเล่นกีฬาสี เสียผลประโยชน์ เกลียดเพราะวัดนี้ไม่ใช่พุทธแท้ (ซึ่งวัดไหนแท้ก็ไม่รู้เหมือนกัน) จึงมารุมยำเขาอย่างทุกวันนี้

กลไกกฎหมายปกติที่มีก็แก้ไขได้ ขอเพียงมีความจริงใจให้กันและกัน แล้วมันจะไม่สูญเสีย หรือต้องมานั่งเสียใจในภายหลังกันอีก

Insanity: doing the same thing over and over again and expecting different results.

การทำแบบเดิมครั้งแล้วครั้งเล่า โดยหวังให้ผลลัพธ์ออกมาแตกต่างจากเดิม เป็นความวิกลจริตอย่างหนึ่ง (Albert Einstein)

รัฐครับ เลิก ม.44 ซะ ถอยออกมาใช้กฎหมายปกติธรรมดาเหมือนคดีอื่นๆ เถอะ การถอย ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ ไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรี ไม่ใช่ว่ากฎหมายไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ แต่มันคือความกล้าหาญและความจริงใจของรัฐบาลท่าน

บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่โลกเชิดชูชื่นชม ไม่ใช่บุคคลที่ชนะคนอื่นด้วยกำลัง แต่คือคนที่ชนะใจคนอื่นด้วยความเมตตาต่างหาก

คนที่ทหารตำรวจไปล้อมอยู่ คือวัด คือพระ คือคนไทย ไม่ใช่ข้าศึกศัตรู

เว้นแต่ลุงตู่จะมีวาระซ่อนเร้นอะไร

ถึงลุกลี้ลุกลนทำตนเป็น "วัวสันหลังหวะ" อย่างที่เป็น






คมความคิด

2 มีนาคม 2560

วงจรอุบาทว์เริ่มกลับมาอย่างที่ผมกังวลอีกแล้ว

วัวสันหลังหวะ กรณีวัดพระธรรมกายได้ กลายมาเป็นมหากาพย์แล้วครับ วัวสันหลังหวะ  กรณีวัดพระธรรมกายได้ กลายมาเป็นมหากาพย์แล้วครับ Reviewed by bombom55 on 05:26 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.