บุรุษจอบเหี้ยน ในพระไตรปิฎก กับ สอนให้ทำบุญ แบบหมดตัว


นึกถึงเรื่องสอนให้ทำบุญ แบบหมดตัว
ของวัดพระธรรมกายทำให้นึกถึงเรื่อง

เล่าบุรุษจอบเหี้ยน ในพระไตรปิฎก

น่าจะมีจุดหมายอย่างเดียวกัน คือ
เพื่อให้รู้รสชาติความอร่อยของการชนะ

เพราะปกติเราต่างเคยชิน
กับรสชาติความสุขจากความพ่ายแพ้!!

เรื่องเล่านั้นมีอยู่ว่า....

มีบุรุษผู้หนึ่งมีนานิดหน่อยมีจอบเหี้ยนเล่มหนึ่ง กับมีเมล็ดพันธุ์ข้าวไม่มากนัก มีศรัทธามาบวช แต่ว่าพอถึงหน้าฝนก็นึกถึงนานึกถึงเครื่องมือทำนาทุกครั้ง ก็มีอันต้องสึกไปทำนาทุกครั้ง

จนการบวชครั้งสุดท้าย คือครั้งที่.7 แกก็ได้พบคำตอบสำคัญ ที่สุดในชีวิต เพราะจอบเหี้ยนเล่มนี้เล่มเดียว ทำให้ต้องบวชๆ สึกๆ แล้วๆ เล่าๆ หลายครั้ง

แกจึงตัดสินใจแบบสละโลกทั้งใบด้วยการเอาเมล็ดพันธ์ โปรยลงแม่น้ำ แล้วจัดการสมบัติชิ้นสุดท้าย ด้วยการหลับตาถือจอบแล้วหมุนรอบตัว 3รอบ แล้วเหวี่ยงจอบทิ้งลงแม่น้ำ

ผลลัพธ์ก็คือตัวเบาสบาย ตะโกนร้องก้องโลกาว่าชิตังเม ชิตังเม ชนะแล้วโว้ย!! ชนะแล้วโว้ย!! การชนะกิเลสมันมีความสุขแบบนี้เอง


การสอนให้ทำบุญแบบหมดตัวในความเข้าใจของเราหมายถึงว่า....
วันนั้นมีเงินติดตัวมาเท่าไหร่ ลองทำบุญ
ให้หมดตัวดูสักครั้งเพื่อจะได้ชิมลิ้มรส
การชนะกิเลสสักครั้ง ว่าเป็นอย่างไร?
ทำไม?? บัณฑิตจึงสรรเสริญกันนัก


มิใช่สอนให้ขายรถขายบ้านมาทำบุญ
อย่างที่พยายามออกข่าวโจมตีวัด 
นั่นเป็นการทำแบบหมดครอบครัวแล้ว 
มิใช่ทำแบบหมดตัวแน่นอน
ปลาไม่อาจเข้าใจชีวิตนกบนฟ้าเช่นไร
คนที่มิได้ประพฤติธรรม ก็เป็นการยาก
ที่จะเข้าใจจิตใจของผู้ประพฤติธรรม
ที่หลวงพ่อท่านสอนอย่างนั้น
เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสชัยชนะ ที่เกิด
จากชนะกิเลสความโลภ ว่ายอดเยี่ยม
มากเพียงใดจะได้เป็นกำลังใจ ในการ
เอาชนะกิเลสตัวอื่นอีกหลายตัว


ถ้าเราเป็นคนที่พอมีเมตตาอยู่บ้าง
แค่เห็นหมาตกรถ หรือหมาผอมโซ
เรายังนึกสงสารเลย แล้วคิดหรือว่า
หลวงพ่อท่านจะมีความสุขเมื่อทราบว่า
มีคนตกทุกข์ได้ยากเพราะทำบุญ

เพราะทุกอย่างที่ท่านสอน และพาทำ
ก็เพื่อให้ผู้คนและโลกนี้เต็มเปี่ยมด้วย
ความสุข ขนาดเราปฏิบัติธรรมได้แค่
ปลายเล็บท่าน เรายังไม่ปรารถนาให้
ใครต้องมาลำบากเพราะเราเลย แล้ว
หลวงพ่อเล่า!! จะเป็นไปได้อย่างไร?

#ถ้าเราอยากจะเข้าใจหลวงพ่อ
หรือเข้าใจวัดอย่างถูกต้อง ก็เห็นมีอยู่
วิธีการเดียวเท่านั้นคือ ต้องฝึกฝนตน
เองให้มีคุณธรรมอย่างที่ท่านมี!!

#เรื่องการทำบุญแบบหมดตัว
ต้องขอบอกตามตรงว่าไม่ทราบข้อมูล
ที่แน่ชัดว่าวัดสอนอย่างไร หรือว่าคน
ตีความเอาเอง เพราะมิใช่ศิษย์วัดฯ

Cr. จอมคนจอบเหี้ยน


บุรุษจอบเหี้ยน ในพระไตรปิฎก กับ สอนให้ทำบุญ แบบหมดตัว บุรุษจอบเหี้ยน ในพระไตรปิฎก กับ สอนให้ทำบุญ แบบหมดตัว Reviewed by bombom55 on 02:28 Rating: 5

16 ความคิดเห็น:

  1. ท่านสอนให้ทำบุญสุดกำลัง ไม่ไม่ให้ขายบ้านช่องมาทำบุญหมดตัว ท่านว่า ถ้าทำเช่นนั้นไม่ถูกหลักวิชาค่ะ
    ทำมากทำน้อยเมื่อทำแล้วต้องรู้สึกปลื้มใจ รู้รสชาติของชัยชนะแบบที่ผู้เขียนได้กล่าวใว้ค่ะ

    ตอบลบ
  2. ให้ทำบุญทุ่มหมดใจไม่ใช่หมดตัวทำมากหรือน้อยต้องมีความปิติมีความปลื้มในบุญที่ทำนั้นถ้าไม่ปลื้มคือขาดทุน ให้ตริกนึกถึงบุญที่ทำแล้วให้ปลื้มยิ่งๆขึ้น

    ตอบลบ
  3. หลวงพ่อสอนให้เรารักพระพุทธศาสนา เราจึงเป็นคนดีได้จนทุกวันนี้

    ตอบลบ
  4. ก็เห็นท่านสอนทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา ไม่ได้แตกต่างจากในพระไตรปิฎก
    พูดกันไปพูดกันมา ความหมายดีๆกลายเป็นทำลาย คนจะจับผิดคิดแค่เรื่องอกุศล เรื่องกุศลจะไม่อยู่ในใจมันเข้าได้ทีละอย่าง ชั่วกับดี บุญกับบาป ไม่เชื่อลองทำดูซิ

    ตอบลบ
  5. ก็เห็นท่านสอนทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา ไม่ได้แตกต่างจากในพระไตรปิฎก
    พูดกันไปพูดกันมา ความหมายดีๆกลายเป็นทำลาย คนจะจับผิดคิดแค่เรื่องอกุศล เรื่องกุศลจะไม่อยู่ในใจมันเข้าได้ทีละอย่าง ชั่วกับดี บุญกับบาป ไม่เชื่อลองทำดูซิ

    ตอบลบ
  6. ทำบุญอย่างสม่ำเสมอ ทำเต็มที่ตามกำลังตน ไม่หมดตัวหรอกค่ะ

    ตอบลบ
  7. ทุกอย่างที่หลวงพ่อธัมมชโยท่านสอน และพาทำ
    ก็เพื่อให้ผู้คนและโลกนี้เต็มเปี่ยมด้วย
    สุข

    ตอบลบ
  8. สาธุ การบูชาธรรมด้วย การปฏิบัติบูชาเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะคุณยายรักธรรมะยิ่งกว่าชีวิต และทุ่มชีวิตสร้างวัดพระธรรมกายตามคำสั่งของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ปัจจัยก็ไม่มีหาเองหมด เป็นคนจริงปฏิบัติธรรมได้จริงจังจนเป็นที่เสื่อมใสแก่คนที่รู้้เห็น สร้างวัดพระธรรมกาย สร้างพระดีอย่างหลวงพ่อธัมมชโยและหลวงพ่อทัตตชีโวและพระรูปอื่นๆ การปกป้องวัดด้วยการสวดธรรมจักรฯท่านต้องปลื้มใจแน่นอน

    ตอบลบ
  9. ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่แสดงว่ายังมีชีวิต..คิดจะทำความดีก็จงลงมือทำไปเถิดและทำให้เต็มที่เต็มกำลังของเราที่สามารถทำได้และทำให้ปลื้มให้ปีติผ่องใสเบิกบาน..อย่างนี้ตรงตามหลักวิชชาทำบุญได้บุญเต็มเม็ดเต็มหน่วยจริงๆ

    ตอบลบ
  10. พวกเราลูกศิษย์หลวงพ่อธัมมชโย รู้สึกว่าเรามีบุญนักหนาที่เกิดมาได้มาเจอครูบาอาจารย์ดังเช่นพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่ท่านสอนให้เรารักในการทำทานรักษาศีลเจริญสมาธิภาวนามากๆ พวกเราจะรักษาความโชคดีนี้ยิ่งชีวิตเจ้าค่ะ

    ตอบลบ
  11. หลวงพ่อสอนให้ทำบุญทำที่เต็มกำลัง ไม่มีปัจจัย ไม่มีเงินก็ก็ใช้แรงกายแรงใจช่วยงานวัด งานพระพุทธศาสนาได้บุญเช่นกัค่ะ ดีกว่าไม่ทำ เป็นคนอื่นทำแล้วยังไปต่อว่าเขาอีก ทั้งที่เงินก็เงินของเขานะคะ

    ตอบลบ
  12. ทำบุญ ทำเต็มกำลังของเรา ทำเเล้วให้ปลื้ม พวกเราโชคดีที่มาพบหลวงพ่อฯ

    ตอบลบ
  13. หลวงพ่อสอนให้ทำบุญแบบปลื้มหมดใจค่ะ ไม่ใช่หมดตัว คือปลื้มใจแค่ไหนก็ทำแค่นั้น ดิฉันเองก็คนหนึ่งที่ได้ขายบ้านแล้วเอามาทำบุญเพราะอยู่ต่างประเทศไม่มีคนดูแลให้ก็เลยขายเปลี่ยนจากโลกิยทรัพย์มาเป็นอริยทรัพย์ด้วยการหล่อหลวงปู่ทองคำ "ปลื้มสุดๆ"ค่ะ และก็ได้บุญนี้ช่วยชีวิตตอนป่วยระลึกนึกบุญได้
    ป่วยเป็นมะเร็ง แต่ตอนนี้หายดีแล้วค่ะ นี่คงเพราะอาณุภาพบุญค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    ตอบลบ
  14. ตามความเข้าใจของตัวเอง ท่านสอนให้ทำบุญแบบหมดใจ คืออยากทำเท่าไร ที่ทำแล้วปลื้มใจที่สุดก็ให้ทำเท่านั้น

    ตอบลบ
  15. ท่านสอนให้ทำบุญเต็มกำลังด้วยใจที่เปี่ยมสุข ศรัทธาในการกระทำของตนเอง (แต่ละคน) และต้องปลื้มในบุญที่ทำและให้ตามระลึกนึกถึงบุญที่ทำบ่อยๆ ทุกๆครั้ง ไม่ได้มุ่งจำนวนเงิน ตัวเลข คนบางคนสื่อความผิดทำให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง

    ตอบลบ
  16. ทำบุญแล้ว ต้องทำด้วยความปลื้ม และไม่เดือนร้อน ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย ตามหลักวิชชาเอย.

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.