ความจริงที่ชาวพุทธต้องรู้

ความจริงที่ชาวพุทธต้องรู้

พระราชญาณกวี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก (ธรรมยุต) พระนักวิชาการชื่อดัง เจ้าของนามปากกา “ ปิยโสภณ ” 

กล่าวว่า ในการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช  พระองค์ที่ 18 และ 19 คณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกายให้การยอมรับถึงความเหมาะสมของสมเด็จพระสังฆราชทั้ง 2 พระองค์ ซึ่งมาจากฝ่ายธรรมยุต 

เมื่อมาถึงครั้งนี้ฝ่ายธรรมยุต ก็ยอมรับถึงความเหมาะสมของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ในการที่จะได้รับการทูลเกล้าฯสถาปนา เป็นสมเด็จพระสังฆราช

คณะกรรมการมหาเถรสมาคมที่มาจากคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต ก็เป็นฝ่ายที่เสนอพระราชาคณะชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์เอง

จึงเห็นได้ชัดว่าทั้งธรรมยุตและมหานิกายไม่ได้มีข้อขัดแย้งกัน 

ดังนั้นหากนายกรัฐมนตรีไม่อยากให้เกิดความแตกแยกก็ควรทำตามขั้นตอนของกฎหมาย และนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่ควรปล่อยให้คาราคาซัง

คนที่ศรัทธาในสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์นั้นมีมาก เนื่องจากท่านสร้างคุณูปการต่อพระพุทธศาสนามากมาย อีกทั้งมหาเถรสมาคมก็มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายแล้วทุกประการ

ส่วนการที่มีผู้ไปร้องสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตีความขั้นตอนการเสนอรายชื่อนั้น หากผู้ตรวจการแผ่นดินเต้นตาม บ้านเมืองนี้คงเพี้ยนไปหมดแล้ว!!!

เรื่องราวเกี่ยวกับศาสนา คนสมัยนี้ถ้าไม่ใช่พ่อแม่พาเข้าวัด ก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวัดกันหรอก 

บางทีตามแม่มาเพราะถูกบังคับ เด็ก ๆ ก็เล่นไปเรื่อย ดูเหมือนไม่ได้สนใจ แต่หูมันปิดไม่ได้ครับ ก็ได้ยินพระเทศน์บ้าง บ่อย ๆ เข้าก็ซึมเข้าไปเหมือนกัน จำได้ พอโตขึ้นสิ่งที่ได้ยินได้ฟังตอนเด็กก็นำมาใช้ในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะการนั่งสมาธิ  ทำให้ชีวิตมีความสุข และมองโลกตามความเป็นจริง 

ในภาวะบ้านเมืองกำลังสับสน คนดีกับคนชั่ว แยกกันไม่ออก เชื่อตามกระแสโซเชี่ยว  น่าเป็นห่วง ผู้คนดูไม่ออกว่าขณะนี้พุทธศาสนากำลังเกิดวิกฤตศรัทธา  “คนพุทธไม่เคารพพระ” แค่เรื่องเดียวก็อาจทำให้พุทธศาสนาล่มสลายได้ 

โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับการคัดค้านสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช ก็เลยลองค้นหาผลงานของท่าน 

ก็รู้สึกอึ้ง เยอะมาก ทั้งต่างประเทศ ในประเทศยาวเป็นหางว่าว

และต่อด้วยข้อความที่พระราชญาณกวี วัดพระราม 9 (ธรรมยุต) อยากให้ทุกท่านที่ติดตามข่าวได้พิจารณาให้ลึกๆ เกิดอะไรขึ้นในศาสนาของเรา 

สงฆ์สองฝ่ายมีมติเป็นเอกฉันท์เสนอชื่อเพื่อ ทูลเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นสมเด็จพระสังฆราช น่าชื่นชมว่าสงฆ์ 2 ฝ่ายรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ดูแล้วไม่น่ามีอะไรที่เป็นปัญหา

เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ล้วนๆ นายกมีหน้าที่แค่ทูลเกล้า ส่วนคนที่ค้านไม่กี่คน เป็นคนที่ไม่มีเครดิตใดใดเลย แถมมีประวัติเสียหายซะมากกว่า แต่สื่อให้ความสำคัญ ชี้นำสังคม คดีที่ดีเอสไอ พยายามยัดเยียดให้สมเด็จฯ 

โดยที่ยังไม่ได้พิสูจน์และบิดเบือนข้อมูล แต่สังคมตัดสินไปแล้ว ผมนึกถึงเรื่องกระต่ายตื่นตูมแค่ได้ยินเสียงลูกตาลหล่นจากต้น ตกใจวิ่งแจ้งข่าวไปทั้งป่า สัตว์ต่างๆไม่รู้  เห็นวิ่งหนีกันสุดชีวิต ก็วิ่งบ้างโดยไม่ได้สอบถามว่าวิ่งหนีอะไร ราชสีห์ผู้มีปัญญาสอบถามจึงรู้ว่า แค่ลูกตาลล่วงลงมาเท่านั้น 

ก็เหมือนกัน ข่าวทำให้คนสับสนและเชื่อ  ถ้าเราชาวพุทธต่างเป็นผู้มีปัญญา (ความรู้ที่ประกอบด้วยเหตุและผล) ก็ไม่ต้องรอราชสีห์มาตัดสิน ใช่ไหมครับ

        ลูกราชสีห์